Kawasaki Z800 สเปคและราคาทุกรุ่นเป็นอย่างไร ยังน่าใช้ไหม?

Table of Contents
Kawasaki Z800 มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ทั้งแรงและดุดันมาพร้อมดีไซน์สุดเท่จนกลายเป็นรถในฝันของสาวกบิ๊กไบค์หลายๆ คน เรียกได้ว่านี่คือมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานที่นิยมไปทั่วโลก ซึ่งต่อให้ปัจจุบันรถ Kawasaki Z800 เลิกผลิตแล้วแต่ก็ยังมีกระแสความต้องการซื้อขายรถ Z800 กันอย่างต่อเนื่อง วันนี้ ENNXO เลยจะพาเหล่านักบิดไปสำรวจดูรถทุกรุ่นของ Kawasaki Z800 สเปคและการใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง

รวมทุกรุ่น Kawasaki Z800 มีปีอะไรบ้าง?
มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ Kawasaki Z800 เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาตั้งแต่ปี 2013-2016 เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Z750 ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากก่อนที่จะหยุดผลิตไปในปี 2016 แล้วออกมอเตอร์ไซค์ Z900 มาแทนที่ โดยรถ Kawasaki Z800 มีทั้งหมด 2 รุ่นหลักนั้นคือ Kawasaki Z800 รุ่น Standard และ Kawasaki Z800 รุ่น e version โดยในแต่ละปีของมอเตอร์ไซค์ Z800 จะมีสเปคและเครื่องยนต์ไม่ต่างจากเดิมมาก มาดูกันว่ารายละเอียดรถ Kawasaki Z800 สเปครุ่นที่ออกจำหน่ายมีดังนี้
Kawasaki Z800 (Standard)
สำหรับรถ Kawasaki Z800 รุ่นสแตนดาร์ดที่มีวางขายทุกปีตั้งแต่ปี 2013-2016 มีรายละเอียดสเปคไม่ต่างจากกันมากนักโดยจุดเด่นของรถ Z800 รุ่น Standard เป็นรุ่นที่อัตราเร่งดี ทำความเร็วได้ง่าย แถมกำลังเครื่องจัดเต็ม หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารถ Z800 เสียงเครื่องเพราะ แถมดีไซน์ค่อนข้างดุดัน โดดเด่นด้วยสไตล์ Sugomi ที่ใครขับก็มั่นใจได้ทุกสถานการณ์
Kawasaki Z800 สเปคและฟีเจอร์
- เครื่องยนต์: 4 สูบเรียง 4 จังหวะ DOHC 16 วาล์ว
- ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ปริมาตรกระบอกสูบ: 806 ซีซี
- ระบบจ่ายน้ำมัน: หัวฉีด (Fuel Injection)
- ความเร็วสูงสุด/แรงม้า: 113 แรงม้า 10,200 รอบ/นาที
- ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
- ระบบคลัตช์: แบบเปียกหลายแผ่น
- ระบบเบรก: ในบางรุ่นมีระบบ ABS ส่วนรุ่นที่ขายในไทยส่วนใหญ่จะไม่มีระบบ ABS
- ระบบกันสะเทือน:
- โช้คหน้า: โช้คหัวกลับ (Upside Down) ขนาด 41 มม. ปรับ Preload & Rebound ได้
- โช้คหลัง: โช้คเดี่ยวแนวนอน ปรับ Preload & Rebound ได้
- ความจุถังน้ำมัน: 17 ลิตร
- น้ำหนัก: 229 กก.
- ยาวxสูงxกว้าง: 2,100x800x1,050 มม.
-สเปค.jpg)
Kawasaki Z800 (e version)
รถ Kawasaki Z800 (e version) มอเตอร์ไซค์สไตล์ Naked Bike ที่ผลิตขึ้นช่วงปี 2013-2016 เป็นรุ่นที่ปรับแรงม้าลงเพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานภายใต้กฎหมายใบขับขี่ A2 ที่ใช้ในฝั่งยุโรป ซึ่งหากเทียบกับรุ่นสแตนดาร์ดแล้วนั้น Z800 รุ่น e version ทางด้านผู้ใช้งานก็ยังรู้สึกถึงเครื่องยนต์ที่แรงและการตอบสนองที่ดีต่อให้มีการลดกำลังลงแล้วก็ตาม ส่วนในไทยเองก็มีรุ่น e version วางขายแล้วผลตอบรับก็ดีไม่แพ้กับรุ่นสแตนดาร์ดเลยทีเดียว
Kawasaki Z800 (e version) สเปคและฟีเจอร์
- เครื่องยนต์: 4 สูบเรียง 4 จังหวะ DOHC 16 วาล์ว
- ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ปริมาตรกระบอกสูบ: 806 ซีซี
- ระบบจ่ายน้ำมัน: หัวฉีด (Fuel Injection)
- ความเร็วสูงสุด/แรงม้า: 95 แรงม้า 9,000 รอบ/นาที
- ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
- ระบบคลัตช์: แบบเปียกหลายแผ่น
- ระบบเบรก: ในบางรุ่นมีระบบ ABS ส่วนรุ่นที่ขายในไทยส่วนใหญ่จะไม่มีระบบ ABS
- ระบบกันสะเทือน:
- โช้คหน้า: โช้คหัวกลับ (Upside Down) ขนาด 41 มม. ไม่สามารถปรับ Preload & Rebound ได้
- โช้คหลัง: โช้คเดี่ยวแนวนอน ไม่สามารถปรับ Preload & Rebound ได้
- ความจุถังน้ำมัน: 17 ลิตร
- น้ำหนัก:226 กก.
- ยาวxสูงxกว้าง: 2,100x800x1,050 มม.
-สเปค.jpg)
สีรถทั้งหมดของ Kawasaki Z800
สำหรับผู้ที่เป็นแฟนรถคาวาซากิอยู่แล้วก็จะคุ้นเคยกับรถบิ๊กไบค์สีเขียวที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยี่ห้อนี้เลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นทางคาวาซากิเองก็ได้มีการผลิตรถสีอื่นๆ ออกมาให้เป็นตัวเลือกอีกหลายแบบด้วยกัน โดยสีรถทั้งหมดของ Kawasaki Z800 ตามปีที่ผลิตมีทั้งหมดดังนี้
- Kawasaki Z800 ปี 2013 มีทั้งหมด 3 สี คือ Candy Flat Blazed Green / Metallic Spark Black (สีเขียวด้านและดำเมทัลลิก), Pearl Stardust White / Metallic Spark Black (สีขาวมุกและดำเมทัลลิก) และ Flat Ebony / Metallic Spark Black (สีดำด้านและดำเมทัลลิก)
- Kawasaki Z800 ปี 2014 มีทั้งหมด 4 สี คือ Candy Flat Blazed Green / Metallic Spark Black (สีเขียวด้านและดำเมทัลลิก), Metallic Spark Black (สีดำเมทัลลิกประกาย), Candy Burnt Orange with Metallic Flat Spark Black (สีส้มและดำด้านเมทัลลิก) และ Pearl Flat Stardust White / Metallic Spark Black (สีขาวมุกและดำเมทัลลิก)
- Kawasaki Z800 ปี 2015 มีทั้งหมด 6 สี คือ Candy Flat Blazed Green / Metallic Spark Black (สีเขียวด้านและดำเมทัลลิก), Metallic Spark Black / Flat Ebony (สีดำเมทัลลิกและดำด้าน), Pearl Stardust White / Flat Raw Greystone (สีขาวมุกและเทา), Metallic Spark Black / Candy Crimson Red (สีดำเมทัลลิกและแดง), Candy Plasma Blue / Metallic Spark Black (สีน้ำเงินและดำเมทัลลิก) และสีพิเศษ Metallic Spark Black / Candy Crimson Red (สีแดงเลือดหมูและดำ)
- Kawasaki Z800 ปี 2016 ปีล่าสุด มีทั้งหมด 5 สี คือ Metallic Spark Black / Pearl Stardust White (สีดำเมทัลลิกและขาวมุก), Metallic Spark Black / Flat Ebony (สีดำเมทัลลิกและดำด้าน), Candy Flat Blazed Green / Metallic Spark Black (สีเขียวด้านและดำเมทัลลิก), Metallic Spark Black / Candy Crimson Red / Metallic Graphite Grey (สีดำเมทัลลิก,แดงและเทากราไฟต์) และสีพิเศษ Sugomi Edition สีดำเงากับแดง

Q&A รวมทุกคำถามเกี่ยวกับรถ Kawasaki Z800
สำหรับผู้ที่ยังลังเลไม่แน่ใจว่าจะเลือกรถ Kawasaki Z800 ดีรึเปล่า เพราะอาจจะยังมีคำถามค้างคาใจอีกมากมาย วันนี้ ENNXO ได้รวบรวมคำถามเหล่านั้นมาไว้ทั้งหมดและพร้อมตอบคำถามให้หมดแล้วที่นี่
- Kawasaki Z800 มีกี่ปี? ผลิตและจำหน่ายทั้งหมด 4 ปี ตั้งแต่ 2013 - 2016
- Kawasaki Z800 กี่กิโลลิตร? อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 12 KM/L
- Kawasaki Z800 วิ่งได้เท่าไหร่? รถ Kawasaki Z800 วิ่งได้เร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- Kawasaki Z800 มือสอง ราคากี่บาท? Kawasaki Z800 มือสอง ราคาประมาณ 100,000 - 250,000 บาท
- Kawasaki Z800 เลิกผลิตแล้วหรือไม่? ปัจจุบันรถ Kawasaki Z800 ไม่มีการผลิตและวางขายในไทยแล้ว
- Kawasaki Z800 เหมาะกับมือใหม่ไหม?หากเป็นมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์การขี่รถบิ๊กไบค์มาก่อนเรายังไม่แนะนำให้เริ่มจากรถรุ่นนี้ เพราะตัวรถค่อนข้างหนักและควบคุมยาก Z800 เหมาะกับคนมีประสบการณ์เคยขี่รถใหญ่มาก่อน

นี้คือข้อมูลทั้งหมดของรถ Kawasaki Z800 ทุกรุ่นอ่านรายละเอียดสเปคไปแล้วคงมีหลายคนที่กำลังอยากได้เจ้ารถบิ๊กไบค์คันนี้กันอยู่แน่ๆ ซึ่งต่อให้รถ Kawasaki Z800 เลิกผลิตแล้วแต่ก็ยังสามารถซื้อขายมือสองได้อยู่ ซึ่งเราขอแนะนำ ENNXO ตลาดซื้อขายรถ Kawasaki Z800 มือสองออนไลน์ ตลาดที่เปิดให้เหล่านักขับทุกคนได้มาหาซื้อรถคันในสเปคและในขณะเดียวกันก็สามารถนำรถคันที่ไม่ใช้แล้วมาลงขายที่ ENNXO ได้ด้วยเช่นกัน ทุกขั้นตอนดำเนินการฟรี ทั้งสะดวกและรวดเร็วพร้อมแล้วอย่าลืมใช้งานที่เอ็นโซ่
