ปลาคราฟ หรือปลาคาร์ฟ ในภาษาอังกฤษเขียนว่า Carp หรือ Fancy Carp สำหรับต้นกำเนิดของปลาคราฟมีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น เรียกว่า “Koi Fish” โดยปลาคราฟเป็นปลาเลี้ยงที่นิยมเลี้ยงในบ้านเพื่อความสวยงาม ทั้งยังสามารถเสริมความเป็นสิริมงคล และสร้างฮวงจุ้ยที่ดีให้บ้านเรือนได้ มากไปกว่านี้ปลาคราฟยังเป็นปลาเลี้ยงที่ติดท็อปอันดับราคาแพงที่สุดของโลก
ในบทความนี้เราได้นำเทคนิควิธีการเลี้ยงปลาคราฟ และข้อควรรู้เกี่ยวกับปลาคราฟมาแบ่งปันกัน ก่อนจะลงมือเลี้ยงปลาคราฟ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
เลี้ยงปลาคราฟ ต้องมีข้อควรรู้และข้อควรระวังอะไรบ้าง เมื่อต้องเลี้ยงปลาคราฟ อันดับแรกต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของปลาคราฟก่อน เพราะหากคุณสามารถรับมือในการเลี้ยงปลาคราฟได้ดีก็จะสามารถเพิ่มอายุของปลาคราฟได้มากขึ้น
สายพันธุ์ปลาคราฟแต่ละชนิดจะมีลักษณะที่ต่างกันออกไป แต่ทั่วไปแล้วปลาคราฟจะมีลักษณะลำตัวค่อนข้างกลม บริเวณหัวจะไม่มีเกร็ด ซึ่งสีปลาคราฟที่เราพบเห็นนั้นคือ สีแดง ส้ม และเหลือง เป็นสีที่เกิดจากสารแคโรทีนอยด์ที่สามารถเปลี่ยนสารสี
และความเข้มของสีภายในได้เอง ส่วนสีอื่นๆ เช่น สีดำ, น้ำเงิน, ขาว หรือเมทัลลิก ที่พบในปลาคราฟนั้นเป็นเซลล์สีของปลาคราฟ โดยปลาคราฟที่ดีต้องมีลักษณะที่สมบูรณ์ตั้งแต่หัวจรดหางปลา ดูง่ายๆ ดังนี้
อายุของปลาคราฟ เป็นอีกข้อหนึ่งที่ควรคำนึง เพราะปลาคราฟที่จะซื้อมาเลี้ยงนั้นควรจะมีอายุระหว่าง 1-2 ปี และควรแยกบ่อเลี้ยงตามชนิดของพันธุ์ปลาคราฟ
แล้วรู้หรือไม่ว่า ปลาคราฟมีอายุขัยเฉลี่ยมากถึง 10 - 25 ปี เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ุของปลาคราฟเป็นตัวกำหนดอายุขัยของมันเองด้วย ซึ่งเคยมีบันทึกว่าปลาคราฟฮานาโกะ (Hanako) เป็นปลาคราฟจากประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกถึง 226 ปี ฉะนั้นการเลี้ยงดูปลาคราฟที่ดีจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมาก
ที่มารูป: hepper.com
สายพันธุ์ปลาคราฟ ที่นิยมเลี้ยงนั้นมีมากมาย จะมีสายพันธุ์ไหนบ้าง แต่ละพันธุ์มีจุดเด่นอย่างไร
นอกจากนี้ยังมีปลาคราฟสายพันธุ์คินกินริน (Kin Gin Rin), ปลาคราฟพันธุ์โกโรโมะ (Koromo) และปลาคราฟพันธุ์โอกอน (Ogon) อีกด้วย
ที่มารูป: giobelkoicenter.com
เมื่อศึกษาถึงวิธีการเลือกซื้อปลาคราฟ และข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับปลาคราฟแล้วนั้น วิธีการเลี้ยงปลาคราฟก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน โดยวิธีการเลี้ยงปลาคราฟในบ้านที่ดีนั้น มีดังนี้
หลายคนน่าจะทราบกันดีว่าบ่อปลาคราฟที่มีพื้นที่เยอะจะส่งผลดีต่อปลาคราฟ เราจึงเห็นว่าคนเลี้ยงปลาคราฟส่วนมากนิยมสร้างบ่อให้มีขนาดใหญ่เพื่อสามารถให้ปลาคราฟแหวกว่ายได้ ซึ่งเป็นวิธีทําบ่อปลาคราฟง่ายๆ แต่ต้องมีข้อที่ต้องระวัง ดังนี้
โดยส่วนใหญ่แล้วระบบกรองน้ำรุ่นยอดนิยมที่ใช้สำหรับบ่อปลา คือ BOYU, SEAFLO, SUNSUN, RESUN, SONIC และ SOBO
บ่อปลาคราฟที่สะอาดนั้นจะต้องใส่ใจดูแลบ่อกรองมากกว่าบ่อปลาคราฟ และควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง แต่หากล้างบ่อเลี้ยงปลาคราฟบ่อยๆ อาจจะทำให้ปลาช็อคได้
วิธีการทำความสะอาดบ่อปลาคราฟที่ถูกต้อง คือ ควรกั้นน้ำระหว่างบ่อปลาคราฟกับบ่อกรอง จากนั้นถ่ายน้ำเสียออกจากบ่อกรอง แล้วปล่อยน้ำจากบ่อเลี้ยงเข้าสู่บ่อกรองเพื่อกรองทำความสะอาด และควรใส่จุลินทรีย์เพื่อปรับสภาพน้ำเสมอเมื่อทำการเปลี่ยน ทั้งในบ่อเลี้ยงปลาคราฟและบ่อกรอง โดยวิธีนี้จะสามารถทำให้บ่อเลี้ยงปลาสะอาด และปลาคราฟไม่เกิดอาการช็อคหลังจากเปลี่ยนน้ำได้
สำหรับใครที่กังวลเรื่องตะไคร่น้ำในบ่อเลี้ยงปลาว่าควรกำจัดหรือไม่ บอกเลยว่าตะไคร่น้ำนั้นเป็นหนึ่งในอาหารธรรมชาติที่ดีของปลาคราฟเลย ทั้งยังสามารถช่วยกรองน้ำในบ่อเลี้ยงปลาได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นแนะนำว่าไม่ควรกำจัดหรือดูดตะไคร่น้ำทิ้งไป
ควรให้อาหารปลาคราฟ 2 ครั้งต่อวัน ได้แก่ช่วงเช้าและช่วงเย็น โดยควรให้ในปริมาณทีละน้อยๆ เพื่อให้เหมาะสมกับระบบการย่อยของปลาคราฟ ซึ่งอาหารที่ปลาคราฟกินได้ เช่น
โดยในการให้อาหารปลาแต่ละครั้งต้องคอยกำจัดเศษอาหารที่เหลือค้างในบ่อปลาเป็นประจำ
ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคการเลี้ยงปลาคราฟในบ้าน และข้อควรรู้เกี่ยวกับปลาคราฟที่เราได้รวบรวมมาให้ ใครที่กำลังสนใจอยากเลี้ยงปลาคราฟอยู่ แล้วเข้ามาอ่านบทความนี้ รับรองว่าปลาคราฟของคุณจะมีสีสวยสดใส เป็นปลาคราฟที่มีสุขภาพดี แถมได้วิธีดูแลบ่อปลาคราฟในบ้านให้ถูกต้อง แค่นี้ก็ทำให้บ้านของคุณดูร่มรื่นสวยงาม เพลิดเพลินไปกับฝูงปลาคราฟที่แหวกว่ายไปมา
สำหรับใครที่วางแผนจะเลี้ยงปลาคราฟ หรือเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนคลายเหงาที่บ้าน หรือกำลังมองหาอุปกรณ์ตกแต่งบ่อปลาคราฟ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มความร่มรื่น และความสวยงาม ให้เกิดความผ่อนคลายภายในบ้าน สามารถเข้ามาเลือกหาได้ที่เอ็นโซ่
อาคารเกษร ทาวเวอร์ ชั้น 26 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330