ปลาคราฟ กับวิธีเลี้ยงปลาคราฟเสริมความมงคลในบ้าน ให้ปลาคราฟมีลักษณะที่ดี

ปลาคราฟ กับวิธีเลี้ยงปลาคราฟเสริมความมงคลในบ้าน ให้ปลาคราฟมีลักษณะที่ดี

ENNXO
/
Blog
/
ปลาคราฟ กับวิธีเลี้ยงปลาคราฟเสริมความมงคลในบ้าน ให้ปลาคราฟมีลักษณะที่ดี
แชร์
Social Sharing
Share on Facebook
Share on Line
Share on Twitter (X)
Copy URL
อัพเดทล่าสุด: 23 มีนาคม 2024

ปลาคราฟ หรือปลาคาร์ฟ ในภาษาอังกฤษเขียนว่า Carp หรือ Fancy Carp สำหรับต้นกำเนิดของปลาคราฟมีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น เรียกว่า “Koi Fish” โดยปลาคราฟเป็นปลาเลี้ยงที่นิยมเลี้ยงในบ้านเพื่อความสวยงาม ทั้งยังสามารถเสริมความเป็นสิริมงคล และสร้างฮวงจุ้ยที่ดีให้บ้านเรือนได้ มากไปกว่านี้ปลาคราฟยังเป็นปลาเลี้ยงที่ติดท็อปอันดับราคาแพงที่สุดของโลก

ในบทความนี้เราได้นำเทคนิควิธีการเลี้ยงปลาคราฟ และข้อควรรู้เกี่ยวกับปลาคราฟมาแบ่งปันกัน ก่อนจะลงมือเลี้ยงปลาคราฟ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงปลาคราฟ

เลี้ยงปลาคราฟ ต้องมีข้อควรรู้และข้อควรระวังอะไรบ้าง เมื่อต้องเลี้ยงปลาคราฟ อันดับแรกต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของปลาคราฟก่อน เพราะหากคุณสามารถรับมือในการเลี้ยงปลาคราฟได้ดีก็จะสามารถเพิ่มอายุของปลาคราฟได้มากขึ้น

1. ลักษณะภายนอกของปลาคราฟ

สายพันธุ์ปลาคราฟแต่ละชนิดจะมีลักษณะที่ต่างกันออกไป แต่ทั่วไปแล้วปลาคราฟจะมีลักษณะลำตัวค่อนข้างกลม บริเวณหัวจะไม่มีเกร็ด ซึ่งสีปลาคราฟที่เราพบเห็นนั้นคือ สีแดง ส้ม และเหลือง เป็นสีที่เกิดจากสารแคโรทีนอยด์ที่สามารถเปลี่ยนสารสี

และความเข้มของสีภายในได้เอง ส่วนสีอื่นๆ เช่น สีดำ, น้ำเงิน, ขาว หรือเมทัลลิก ที่พบในปลาคราฟนั้นเป็นเซลล์สีของปลาคราฟ โดยปลาคราฟที่ดีต้องมีลักษณะที่สมบูรณ์ตั้งแต่หัวจรดหางปลา ดูง่ายๆ ดังนี้

  • ปลาคราฟจะต้องมีขนาดสัดส่วนที่พอดี ลำตัวต้องไม่โค้ง หรือกลมเกินไป บริเวณหัวปลาต้องไม่นูนออกมา ครีบและหางต้องไม่แหว่งออก
  • สุขภาพผิวดูดี โดยสีของปลาคราฟต้องมีขอบสีที่เรียบสม่ำเสมอเป็นเงางาม
  • ลักษณะการเคลื่อนไหวของปลาคราฟ หากปลาคราฟตัวนั้นว่ายน้ำอย่างราบรื่น ดูสง่างาม ไม่ซึม จับตัวอยู่เป็นกลุ่มก้อนนั่นคือลักษณะของปลาคราฟที่ควรซื้อ
การเพาะพันธุ์ปลาคาร์ฟ

2. อายุของปลาคราฟที่ควรซื้อ

อายุของปลาคราฟ เป็นอีกข้อหนึ่งที่ควรคำนึง เพราะปลาคราฟที่จะซื้อมาเลี้ยงนั้นควรจะมีอายุระหว่าง 1-2 ปี และควรแยกบ่อเลี้ยงตามชนิดของพันธุ์ปลาคราฟ

แล้วรู้หรือไม่ว่า ปลาคราฟมีอายุขัยเฉลี่ยมากถึง 10 - 25 ปี เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ุของปลาคราฟเป็นตัวกำหนดอายุขัยของมันเองด้วย ซึ่งเคยมีบันทึกว่าปลาคราฟฮานาโกะ (Hanako) เป็นปลาคราฟจากประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกถึง 226 ปี ฉะนั้นการเลี้ยงดูปลาคราฟที่ดีจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมาก

ปลาคราฟอยู่ได้กี่ปี

ที่มารูป: hepper.com


3. สายพันธุ์ปลาคราฟที่นิยมเลี้ยงมากที่สุด

สายพันธุ์ปลาคราฟ ที่นิยมเลี้ยงนั้นมีมากมาย จะมีสายพันธุ์ไหนบ้าง แต่ละพันธุ์มีจุดเด่นอย่างไร

  • ปลาคราฟ พันธุ์โคฮากุ (Kohaku) พันธุ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด และนิยมเลี้ยงมากที่สุด ลำตัวจะมีสีขาวลายแดง โดยปลาคราฟ S Legend พันธุ์ Kohaku มีราคาแพงที่สุด ราคาประมาณ 65 ล้านบาท
  • ปลาคราฟพันธุ์โชวา (Showa) / ปลาคราฟพันธุ์ไทโซซันโชกุ (Taisho Sanshoku) ลักษณะเป็นสีขาว แดง และดำ ราคาประมาณ 18,000 บาท
  • ปลาคราฟพันธุ์อุสึริโมโน (Utsurimono) ลวดลายสีดำพาดคล้ายสีหมึกดำ มีทั้งขาวดำ, แดงดำ และเหลืองดำ ราคาประมาณ 21,000 บาท
  • ปลาคราฟพันธุ์ตันโจ (Tancho) เป็นพันธุ์ที่หายาก จุดเด่นคือมีวงกลมสีแดงบริเวณหัวของปลา และตัวสีขาว จึงทำให้มองดูคล้ายธงชาติประเทศญี่ปุ่น นิยมอย่างมากในหมู่คนชอบปลาคราฟญึ่ปุ่น ราคาประมาณ 38,000 บาท
  • ปลาคราฟพันธุ์อาซากิ ชูซุย (Asaki Shusui) มีความโดดเด่นด้วยเกล็ดสีน้ำเงิน กลางลำตัวเป็นสีเทา ครีบและหางเป็นสีแดง ส่วนหัวต้องเป็นสีขาวถึงจะเป็นปลาคราฟที่สมบูรณ์ มีราคาประมาณ 34,000 บาท
  • ปลาคราฟพันธุ์เบนิ คิโคะคุริว (Beni Kikokuryu) ความพิเศษของพันธุ์นี้คือสามารถเปลี่ยนสีได้ตามอุณหภูมิ ส่วนใหญ่มีสีขาว ดำ และฟ้า ราคาประมาณ 72,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีปลาคราฟสายพันธุ์คินกินริน (Kin Gin Rin), ปลาคราฟพันธุ์โกโรโมะ (Koromo) และปลาคราฟพันธุ์โอกอน (Ogon) อีกด้วย

ปลาคราฟมีทั้งหมดกี่สายพันธุ์

ที่มารูป: giobelkoicenter.com


วิธีการเลี้ยงปลาคราฟในบ้าน

เมื่อศึกษาถึงวิธีการเลือกซื้อปลาคราฟ และข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับปลาคราฟแล้วนั้น วิธีการเลี้ยงปลาคราฟก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน โดยวิธีการเลี้ยงปลาคราฟในบ้านที่ดีนั้น มีดังนี้

1. บ่อปลาคราฟที่ดี ถูกต้อง เหมาะสม

หลายคนน่าจะทราบกันดีว่าบ่อปลาคราฟที่มีพื้นที่เยอะจะส่งผลดีต่อปลาคราฟ เราจึงเห็นว่าคนเลี้ยงปลาคราฟส่วนมากนิยมสร้างบ่อให้มีขนาดใหญ่เพื่อสามารถให้ปลาคราฟแหวกว่ายได้ ซึ่งเป็นวิธีทําบ่อปลาคราฟง่ายๆ แต่ต้องมีข้อที่ต้องระวัง ดังนี้

  • บ่อปลาคราฟจะต้องมีร่มเงาที่เพียงพอเพื่อช่วยลดระดับความเครียดของปลาคราฟ ทั้งยังช่วยให้ปลาคราฟมีสีสันที่สดสวยอีกด้วย
  • การรักษาอุณหภูมิของบ่อปลาคราฟที่เหมาะสม คือ อุณหภูมิ 15 - 25 องศาเซลเซียส เมื่ออุณหภูมิเหมาะสมแล้วจะส่งผลให้ระบบดูดซึมอาหารของปลาคราฟทำงานได้ดี
  • รูปทรงบ่อปลาคราฟที่นิยมสร้าง ได้แก่ บ่อปลาคราฟทรงเหลี่ยม นิยมทำเมื่อมีพื้นที่จำกัด, บ่อปลาคราฟฟอร์มเลียนแบบธรรมชาติ หรือฟรีฟอร์ม
  • บ่อปลาคราฟมีขนาดมาตรฐานประมาณ 80 x 120 เซนติเมตร และมีความลึกประมาณ 1.75 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนปลาคราฟที่เลี้ยงด้วย โดยไม่ควรเลี้ยงปลาคราฟจำนวนมาก และต่างสายพันธ์ุในบ่อเดียวกัน
วิธีทํา บ่อปลาคราฟ ง่ายๆ

2. ระบบกรองน้ำในบ่อปลาคราฟ

  • ระบบกรองน้ำกับบ่อปลาเป็นส่วนสำคัญ ควรมีความลึกและมีขนาดเป็นหนึ่งในสามของบ่อปลา บริเวณจุดต่ำสุดหรือเรียกว่าสะดือบ่อนั้นเป็นจุดที่เหมาะสมในการติดตั้งระบบกรองน้ำเพื่อถ่ายเทของเสียออกจากบ่อปลาคราฟ จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อปลาคราฟทุกเดือน
  • การติดตั้งหัวพ่นอากาศในลักษณะของน้ำพุ หรือน้ำตกที่บ่อปลาคราฟจะเป็นการเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่เจ้าปลาคราฟของคุณได้
  • หลังจากเตรียมบ่อปลาเสร็จต้องแช่น้ำทิ้งไว้ 5 - 7 วัน แล้วปล่อยน้ำเสียออกมา จากนั้นเตรียมน้ำทิ้งไว้อีก 3 วัน แล้วค่อยเปิดระบบกรองน้ำทิ้ง

โดยส่วนใหญ่แล้วระบบกรองน้ำรุ่นยอดนิยมที่ใช้สำหรับบ่อปลา คือ BOYU, SEAFLO, SUNSUN, RESUN, SONIC และ SOBO

3. การทำความสะอาดบ่อปลาคราฟ

บ่อปลาคราฟที่สะอาดนั้นจะต้องใส่ใจดูแลบ่อกรองมากกว่าบ่อปลาคราฟ และควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง แต่หากล้างบ่อเลี้ยงปลาคราฟบ่อยๆ อาจจะทำให้ปลาช็อคได้

วิธีการทำความสะอาดบ่อปลาคราฟที่ถูกต้อง คือ ควรกั้นน้ำระหว่างบ่อปลาคราฟกับบ่อกรอง จากนั้นถ่ายน้ำเสียออกจากบ่อกรอง แล้วปล่อยน้ำจากบ่อเลี้ยงเข้าสู่บ่อกรองเพื่อกรองทำความสะอาด และควรใส่จุลินทรีย์เพื่อปรับสภาพน้ำเสมอเมื่อทำการเปลี่ยน ทั้งในบ่อเลี้ยงปลาคราฟและบ่อกรอง โดยวิธีนี้จะสามารถทำให้บ่อเลี้ยงปลาสะอาด และปลาคราฟไม่เกิดอาการช็อคหลังจากเปลี่ยนน้ำได้

สำหรับใครที่กังวลเรื่องตะไคร่น้ำในบ่อเลี้ยงปลาว่าควรกำจัดหรือไม่ บอกเลยว่าตะไคร่น้ำนั้นเป็นหนึ่งในอาหารธรรมชาติที่ดีของปลาคราฟเลย ทั้งยังสามารถช่วยกรองน้ำในบ่อเลี้ยงปลาได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นแนะนำว่าไม่ควรกำจัดหรือดูดตะไคร่น้ำทิ้งไป

4. การให้อาหารแก่ปลาคราฟ

ควรให้อาหารปลาคราฟ 2 ครั้งต่อวัน ได้แก่ช่วงเช้าและช่วงเย็น โดยควรให้ในปริมาณทีละน้อยๆ เพื่อให้เหมาะสมกับระบบการย่อยของปลาคราฟ ซึ่งอาหารที่ปลาคราฟกินได้ เช่น

  • พืชผัก เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด สาหร่าย แหน รำ หรือตะไคร่น้ำ
  • เนื้อสัตว์ที่เป็น เนื้อกุ้ง หอย ปู ปลาป่น ไรน้ำ ลูกน้ำ หรือหนอนแดง
  • อาหารสำเร็จรูป

โดยในการให้อาหารปลาแต่ละครั้งต้องคอยกำจัดเศษอาหารที่เหลือค้างในบ่อปลาเป็นประจำ

การเลี้ยงปลาคราฟ

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคการเลี้ยงปลาคราฟในบ้าน และข้อควรรู้เกี่ยวกับปลาคราฟที่เราได้รวบรวมมาให้ ใครที่กำลังสนใจอยากเลี้ยงปลาคราฟอยู่ แล้วเข้ามาอ่านบทความนี้ รับรองว่าปลาคราฟของคุณจะมีสีสวยสดใส เป็นปลาคราฟที่มีสุขภาพดี แถมได้วิธีดูแลบ่อปลาคราฟในบ้านให้ถูกต้อง แค่นี้ก็ทำให้บ้านของคุณดูร่มรื่นสวยงาม เพลิดเพลินไปกับฝูงปลาคราฟที่แหวกว่ายไปมา

สำหรับใครที่วางแผนจะเลี้ยงปลาคราฟ หรือเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนคลายเหงาที่บ้าน หรือกำลังมองหาอุปกรณ์ตกแต่งบ่อปลาคราฟ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มความร่มรื่น และความสวยงาม ให้เกิดความผ่อนคลายภายในบ้าน สามารถเข้ามาเลือกหาได้ที่เอ็นโซ่

แชร์
Social Sharing
Share on Facebook
Share on Line
Share on Twitter (X)
Copy URL
ENNXO
contact@ennxo.com

อาคารเกษร ทาวเวอร์ ชั้น 26 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

ดาวน์โหลดได้จาก App Storeดาวน์โหลดได้จาก Google Play

ติดตามเรา

© 2015 - 2024 ENNXO.COM Passive Alpha Co., Ltd.