หลายๆ คนน่าจะเคยประสบปัญหาเดียวกัน นั่นก็คือ หลังกินข้าวเสร็จก็รู้สึกแน่นท้อง อึดอัดหายใจลำบาก ผายลมตลอดเวลา เรอบ่อยผิดสังเกต จนคิดว่าเกิดอะไรผิดปกติหรือเปล่า จริงๆ แล้วอาการเหล่านี้ก็คืออาการท้องอืด นั่นเอง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ และอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายบางอย่างได้เช่นกัน วันนี้ ENNXO จะพาไปทำความรู้จักกับอาการท้องอืดกัน พร้อมสาเหตุ รวมถึงวิธีไล่ลมในท้อง วิธีขับลมในท้อง ท้องอืดกินอะไรหาย ลมในท้องเยอะ ทำไงดี และวิธีแก้ท้องอืดที่ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน
อาการท้องอืด (Flatulence) คืออาการแน่นท้องจุกเสียดที่เกิดจากระบบการย่อยอาหารทำงานผิดปกติ หรือเรียกง่ายๆ ว่าภาวะอาหารไม่ย่อย ทำให้มีแก๊สในกระเพาะอาหารหรือเกิดลมในท้องมากจนเกินไป อาการท้องอืดนี้สามารถพบได้บ่อยทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงวัยตั้งแต่ 35 - 40 ปีขึ้นไป โดยกลุ่มอาการท้องอืด ท้องเฟ้อนั้นเกิดจากสาเหตุหลายประการ
ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของท้องอืด หรือ ลมในท้องเยอะ เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานเป็นส่วนใหญ่ เช่น รับประทานอาหารเร็ว เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เคี้ยวหมากฝรั่ง ทานอาหารที่ไม่ตรงเวลา และทานอาหารมากไป รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม (กลุ่มที่แพ้แลคโตส) อาหารที่มีไขมันสูง เครื่องดื่มน้ำอัดลม และสารให้ความหวานเทียม นอกจากนี้ยังรวมถึงความเครียด ความวิตกกังวล การสูบบุหรี่ และโรคต่างๆ บางประการ เช่น โรคลำไส้แปรปรวน โรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน ท้องผูกเรื้อรัง โรคลำไส้อุดตันเทียม โรคเซลิแอค และมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมถึงอาจเป็นอาการก่อนเป็นประจำเดือน
อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย และท้องเฟ้อ อาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและสามารถหายเองได้ โดยอาการจะมีดังนี้ เรอ ผายลมบ่อย เสียงดัง และมีกลิ่นผิดปกติ มีลมในท้อง ท้องป่อง รู้สึกไม่สบายท้อง อึดอัด และบางรายอาจหายใจได้ลำบาก แต่หากยังมีอาการท้องอืดติดต่อกันเป็นระยะเวลาเกิน 2 -3 สัปดาห์ ร่วมกับอาการมีไข้สูง น้ำหนักลด ท้องเสีย ถ่ายเหลว ปวดท้อง อ่อนเพลีย ประจำเดือนผิดปกติ อาเจียนบ่อยครั้งหรือเป็นเลือด ควรไปพบแพทย์
สำหรับวิธีขับลมในท้องนั้นจริงๆ สามารถทำเองได้ โดยเอ็นโซ่ได้นำวิธีขับลมในท้องที่สามารถทำได้เองง่ายๆ ที่บ้านมาฝาก ใครที่กำลังหาวิธีแก้ท้องอืด ทำยังไงให้ท้องหายอืด หรือวิธีแก้ท้องอืด ลมในท้องเยอะ ไปดูวิธีต่างๆ พร้อมกันเลย
ลมในท้องเยอะ ทำไงดี กินอะไรช่วยขับลม คนท้องอืดกินอะไรหาย ปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อเหล่านี้จะบรรเทาลงได้ด้วยอาหารแก้ท้องอืด แล้วต้องกินอะไรบ้าง
ท้องอืดกินพวกชาสมุนไพรสามารถช่วยขับลม แก้อาการแน่นท้อง แก้ท้องอืดได้ โดยเฉพาะสมุนไพรที่มีฤทธิ์ขับลม ลดการเกิดแก๊สในลำไส้ และช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารอีกด้วย ได้แก่
หลายคนยังไม่รู้ว่าการรับประทาน โยเกิร์ต เป็นวิธีไล่ลมในท้องที่ทำได้เป็นประจำ เนื่องจากโยเกิร์ตมีโพรไบโอติกที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ทำให้การย่อยทำงานได้ดีขึ้น แต่ควรเลือกรับประทานโยเกิร์ต แบบไม่มีน้ำตาล จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน และเลือกดื่มน้ำอุ่นนั้นจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานให้ดีขึ้น เป็นวิธีแก้ท้องอืด ลมในท้องได้
ท้องอืด แน่นท้อง ท้องบวม วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการเลือกรับสารอาหารที่ดีให้แก่ร่างกาย โดยเฉพาะการเลือกรับประทานผักและผลไม้จะยิ่งช่วยเพิ่มไฟเบอร์ กระตุ้นระบบย่อยให้ดียิ่งขึ้น แก้อาการท้องอืด ทั้งยังสามารถลดอาการบวมได้อีกด้วย ได้แก่
อีกหนึ่งตัวช่วยที่เป็นวิธีไล่ลมในท้องได้ดี คือ ประเภทอาหารหมักดอง เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีโพรไบโอติกช่วยให้การทำงานของกระเพาะ และช่วยย่อยอาหารได้ดีขึ้น เช่น
วิธีขับลมในท้อง วิธีไล่ลม แก้ท้องอืดด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเป็นวิธีที่ส่งผลในระยะยาว เป็นวิธีที่แนะนำที่ควรทำตาม ดังนี้
ใครที่หาวิธีไล่ลม แก้ท้องอืดแบบระยะยาว แถมยังช่วยส่งเสริมร่างกายให้แข็งแรงต้องหันมาออกกำลังกาย เพราะสามารถช่วยกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
พฤติกรรมที่กินแล้วนอนนั้นเป็นภัยเงียบที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่นเดียวกับอาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วไม่ควรนอนทันที
การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเป็นวิธีแก้ท้องอืดอาหารไม่ย่อยที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการรับประทานอาหารนั้นควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ และถูกสุขอนามัย โดยเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิด ได่แก่ ผักสด และผักบางชนิด เช่น กะหล่ำ บรอกโคลี รวมไปถึงหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทอัดแก๊ส น้ำอัดลม โซดา แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มรสหวาน อีกทั้งนมก็เป็นสาเหตุให้เกิดท้องอืดได้
นอกจากจะเคี้ยวอาหารให้ช้าลงแล้ว ก็ควรลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้พออิ่ม ไม่ควรรับประทานอาหารให้เยอะมากเกินไป
การสูบบุหรี่จะทำให้ระบบการย่อยอาหารเสื่อมสภาพ และยับยั้งการหลังของเอมไซน์ในกระเพาะอาหาร จึงก่อให้เกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารตามมา
วิธีขับไล่ลมในท้อง วิธีไล่ลมในลำไส้ด้วยการไล่กดจุดเป็นศาสตร์แพทย์แผนจีนที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน สามารถทำได้เองง่ายๆ ด้วย 3 จุด ดังนี้
วิธีไล่ลมในท้อง แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ กรดไหลย้อน ด้วยการนวดท้องต้องนวดกดท้อง หรือกดจุดจงหว่าน กดจุดเป็นลักษณะวงกลมตามเข็มนาฬิกาตรงบริเวณหน้าท้องกึ่งกลางลำตัว เหนือสะดือประมาณ 4 - 5 นิ้ว กดจุดเบาๆ ใช้เวลานานประมาณ 5 - 10 นาที เพื่อให้ลมระบายดีขึ้นผายลมออกมา นอกจากนี้แล้วนอนท่ากอดเข่าก็สามารถช่วยขับลมออกมาได้เช่นกัน
วิธีไล่ลมในท้อง กรดไหลย้อน ด้วยการกดจุดจู๋ซานหลี หรือบริเวณใต้สะบ้าหัวเข่าลงไปประมาณ 3 นิ้ว แล้วใช้นิ้วโป้งกดข้างละ 5 - 10 นาที
วิธีแก้ท้องอืด ลมในท้อง ด้วยการกดจุดเน่ยกวน อยู่ห่างจากเส้นข้อมือไปประมาณ 2 นิ้ว โดยให้กดจุดไว้ข้างละ 5 - 10 นาที
วิธีไล่ลมในท้องด้วยโยคะ เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ฝึกการหายใจ และฝึกการทำสมาธิ รวมถึงยังสามารถจัดการความเครียดที่เป็นต้นเหตุของอาการท้องอืด ลมในท้องเยอะได้อีกด้วย โดยเฉพาะท่า Pavananuktasana, Salabhasana และ Utthita Parsrakonasana เป็นต้น
วิธีแก้ท้องอืด แก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง วิธียอดฮิตที่แก้ปัญหาได้ทันท่วงที คือการใช้ยาแก้ท้องอืด ยา ลดแก๊สในกระเพาะ ยาช่วยย่อยเพื่อให้ระบบย่อยอาหารหรือกระเพาะอาหารปรับความสมดุล ลดการแสบร้อน การจุกเสียด ท้องแน่น ท้องเฟ้อได้ ยกตัวอย่างยาแก้ท้องอืดที่ได้รับความนิยม เช่น ยาแก้ท้องอืดชนิดเม็ดเคี้ยว, ยาเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร, ยาลดกรดชนิดน้ำ, ยาธาตุน้ำขาว, ยาธาตุน้ำแดง เป็นต้น โดยยาแต่ละชนิดต้องได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อ่านฉลากยาที่กำกับไว้เสมอ และปฏิบัติตามที่แพทย์สั่ง
ทั้งหมดนี้เป็น วิธีไล่ลมในท้อง ที่สามารถทำได้ง่าย และสามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน ใครที่อ่านวิธีขับลมในท้อง วิธีไล่ลมในท้อง มาถึงตรงนี้เชื่อว่าจะสามารถนำวิธีต่างๆ ที่เอ็นโซ่นำมาฝากนี้ไปใช้บรรเทาอาการท้องอืดได้ โดยวิธีขับลมในท้อง หรือการเลือกหาวิธีไล่ลม แก้ท้องอืดที่ดีที่สุดนั้นแนะนำให้ปรับเปลี่ยนตั้งแต่พฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิต เพราะจะสามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว แต่ทว่าใครที่มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อที่รุนแรงต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
อาคารเกษร ทาวเวอร์ ชั้น 26 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330