เพื่อนๆ คนไหนที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่หรือซื้อที่ดินใหม่ หากกำลังหาไอเดียการตกแต่งพื้นที่บริเวณบ้านอยู่ล่ะก็ อีกหนึ่งไอเดียที่จะทำให้บ้านสวยงามมากขึ้น และช่วยเพิ่มบรรยากาศสดชื่นภายในบ้าน นั่นก็คือ การปลูกสนามหญ้า นั่นเอง แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มปลูกหญ้านั้น จะต้องวางแผนก่อนว่าควรปลูกหญ้าอะไร มีวิธีการดูแลแบบไหน เพื่อที่สนามหญ้าในบ้านคุณจะได้ไม่เหี่ยวเฉา และสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นได้ตลอดเวลา
ชนิดของหญ้าที่นิยมปลูกหน้าบ้าน
หญ้าสีเขียวที่เราเห็นกันบ่อยนั้น หากไม่สังเกตดีๆ ก็อาจนึกว่าเป็นหญ้าที่เหมือนๆ กันไปหมด แต่ว่าหญ้านั้นมีอยู่หลายชนิด แถมแต่ละชนิดยังมีคุณสมบัติแตกต่างกันอีกด้วย โดยวันนี้ทางเราจะมาพูดถึงสายพันธุ์หญ้า 6 ชนิดที่นิยมปลูกในไทยให้ทุกคนได้รู้จักกัน
หญ้านวลน้อย (Manila Grass หรือ Temple Grass)
หญ้าที่นิยมปลูกทั้งบริเวณภายในบ้าน สวนสาธารณะ สนามกีฬา และอื่นๆ คงไม่พ้นหญ้านวลน้อย เพราะเป็นหญ้าที่ทนต่อสภาพการเหยียบย่ำได้ดี ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นดิน ไม่ว่าจะเป็นดินทราย ดินเหนียว ก็ปลูกหญ้านวลน้อยได้หมด แต่หากเจอสภาพอากาศร้อน แห้งแล้งและชื้นมากเกินไปอาจทำให้เหี่ยวเฉาได้ง่ายหรือหญ้าตายได้ นอกจากนี้หญ้านวลน้อยเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีลำต้นและใบอ่อนนุ่ม เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกนุ่ม ไม่ระคายผิว เรียกได้ว่าเหมาะกับการเอามาปลูกสุดๆ
วิธีการดูแลสนามหญ้านวลน้อย: ควรรดน้ำเป็นประจำ วันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น), การให้ปุ๋ย ควรให้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ใช้สูตร 18-12-6 หรือ 20-20-0 อัตรา 20-40 กิโลกรัม ต่อ 1 ไร่ ขณะที่ใส่ปุ๋ยแล้วนั้นต้องรดพรมน้ำทันที เพื่อไม่ให้ปุ๋ยค้างอยู่บนใบหญ้า เพราะจะทำให้หญ้าเกิดใบลวกได้ และที่สำคัญต้องหมั่นตัดหญ้า เพราะหญ้านวลน้อยเจริญเติบโตเร็วมากๆ
หญ้าญี่ปุ่น (Japanese Lawn Grass)
หญ้าญี่ปุ่นเป็นหญ้าที่ทนต่อสภาพอากาศร้อน อากาศแห้งแล้งได้ดีมากๆ เป็นหญ้าทนแดด ทนแมลง ทนการเหยียบย่ำได้ดี และเติบโตง่ายในดินเหนียวหรือดินที่มีกรดเป็นด่าง pH ค่า 6-7 แต่ก็เป็นหญ้าที่เติบโตช้าและต้องการน้ำมาก ซึ่งหญ้าญี่ปุ่นแบ่งได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ได้แก่ ชนิดใบกว้าง กับชนิดใบกลม โดยชนิดใบกลมจะนิยมปลูกในไทยมากกว่า และตัวใบจะมีขนาดเล็กกว่าด้วยเช่นกัน แต่ลักษณะใบของสายพันธุ์นี้จะมีความแข็งกระด้าง ค่อนข้างระคายเคืองต่อผิว จึงนิยมปลูกแบบเป็นสวนหย่อม
วิธีการดูแลสนามหญ้าญี่ปุ่น: เนื่องจากเป็นหญ้าที่ทนในทุกสภาพแวดล้อม จึงเหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาดูแล แต่ก็อย่าปล่อยให้หญ้าญี่ปุ่นขาดน้ำเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้สนามหญ้าของคุณกลายเป็นสีเหลืองแทนสีเขียวไปโดยทันที นอกจากนี้ควรตัดหญ้าประมาณอาทิตย์ละครั้ง เพราะถ้าปล่อยไว้จนหญ้ารวมกันเป็นกระจุก จะเกิดสภาพใบแข็ง ซึ่งจะตัดยากมากยิ่งขึ้น
หญ้ามาเลเซีย หรือหญ้ามาเลย์ (Tropical Carpet Grass)
หญ้ามาเลเซีย ที่ถูกตั้งฉายาว่า “หญ้าที่ไม่มีวันตาย” เป็นไม้ล้มลุกที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย โตเร็วในทุกสภาพอากาศ ทั้งที่โล่งมีแดด น้ำขัง และเติบโตดีในทุกดิน (กรณีดินเค็มต้องบำบัดดินก่อน) สามารถแตกแขนงรากไปได้เรื่อยๆ แต่หญ้าชนิดนี้ทนสภาพการเหยียบย่ำได้ในประมาณหนึ่งเท่านั้น โดยลักษณะของหญ้ามาเลเซียจะมีสีเขียวเข้ม แผ่นใบเรียบหนา เมื่อเติบโตเต็มที่จะมีดอกสีขาวขึ้นมาอีกด้วย
วิธีการดูแลสนามหญ้ามาเลเซีย: หญ้าชนิดนี้ชอบความชุ่มชื้น ในแต่ละวันจึงต้องรดน้ำตอนเช้า-เย็นในปริมาณมากๆ หากพืชขาดน้ำหรือดินแห้งจะทำให้เกิดเหี่ยวเฉาได้ และต้องตัดแต่งบ่อยครั้งเพราะหญ้ามาเลเซียเติบโตเร็วภายใน 1-2 อาทิตย์
หญ้าเบอร์มิวด้า หรือหญ้าแพรก (Bermuda Grass)
หญ้าที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นหญ้าที่เติบโตง่าย มักเห็นได้บ่อยตามข้างทาง แต่ก็สามารถปลูกบริเวณบ้านได้ด้วยเช่นกัน ลักษณะของหญ้ามีความเรียวแหลม มีคุณสมบัติที่เจริญเติบโตได้ทุกสภาพดิน ทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะแดดจัด แห้งแล้ง ดินเป็นกรด-ด่าง ทนต่อการเหยียบย่ำได้ดีมาก เรียกได้ว่าหญ้าเบอร์มิวด้าเอาอยู่หมด และอีกอย่างยังมีสรรพคุณทางยา นำมาทำเป็นสมุนไพรแก้ปวดเมื่อย ท้องเสีย ยาแก้ไข้ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้หญ้าชนิดนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง ที่เอามาใช้ในพิธีไหว้ครูนั่นเอง
วิธีการดูแลสนามหญ้าเบอร์มิวด้า: ด้วยความที่หญ้าชนิดนี้เติบโตง่าย จึงต้องหมั่นตัดแต่งบ่อยๆ เพราะหากทิ้งไว้เป็นเวลานานจะกลายเป็นวัชพืชและขึ้นสูงจนรก นอกจากนี้ต้องหมั่นให้น้ำให้ปุ๋ยด้วยนะ
หญ้าไทเป หรือหญ้ามาเลเซียแคระ (Broadleaf Carpet Grass)
หญ้าที่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบการตัดแต่งบ่อยครั้ง เพราะหญ้าชนิดนี้จะมีความยาวของใบสม่ำเสมอ ไม่ต้องออกแรงตัดให้เหนื่อย นอกจากนี้ยังเป็นหญ้าที่ใช้ดินทุกประเภทปลูกได้ ยกเว้นดินเค็มกับดินเปรี้ยว ส่วนลักษณะของพืชจะค่อนข้างเตี้ย ใบสั้นซ้อนกันประมาณ 3-4 ชั้น โดยจะขนานไปกับพื้นดิน แต่ว่าข้อเสียคือจะค่อนข้างเติบโตช้า และมีราคาสูงกว่าชนิดอื่นๆ
วิธีการดูแลสนามหญ้าไทเป: หากเป็นไปได้ ให้หญ้าโดนแดดมากกว่าอยู่ในร่มจะดีกว่า เพราะใบที่โดนแดดจะมีความนุ่มกว่า และควรรดน้ำให้ชุ่มในทุกๆ วันอย่างสม่ำเสมอ
หญ้าพาสพาลัม (Paspalum Grass)
หญ้าที่มีลักษณะใบเล็กปลายมน ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อน แห้งแล้ง และทนต่อการเหยียบย่ำ โดยดินที่ใช้ปลูกควรเป็นกรดกับด่าง หากปลูกบริเวณบ้านผู้คนจะนิยมปลูกทำเป็นสวนหย่อม เพราะหญ้ามีความนุ่ม ไม่ระคายผิว แต่ว่าคนที่ปลูกหญ้าชนิดนี้จะต้องหมั่นสังเกตและเอาใจใส่เป็นพิเศษ เนื่องจากพวกหนอน เพลี้ยจะชอบมากินจนทำให้หญ้าไม่เขียวขจี และควรปลูกหญ้าในบริเวณที่โดดแดดอีกด้วย
วิธีการดูแลสนามหญ้าพาสพาลัม: ใช้ยาฟูราดานหรือน้ำหมักสมุนไพรหว่านให้ทั่วสนามหญ้าเพื่อป้องกันพวกหนอน เพลี้ย และควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งหมดนี้เป็นหญ้าที่นิยมปลูกภายในบ้านที่ทางเราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีคุณสมบัติปลูกง่าย ทนต่อทุกสภาพอากาศ ถ้าคุณมีบ้านหรือที่ดินที่ดีแล้ว และกำลังมองหาต้นไม้ หรือหญ้า มาปลูกเพื่อสร้างความเขียวขจีให้กับสายตา สร้างบรรยากาศความร่มรื่นภายในบ้าน สามารถเข้ามาดูสินค้าต้นไม้ หญ้าชนิดต่างๆ อุปกรณ์ทำสวน ได้ที่ ENNXO (เอ็นโซ่) หรือใครที่ต้องการขายหญ้าสำหรับปลูกสนามหญ้า อุปกรณ์ตกแต่งสวน ก็สามารถลงประกาศฟรีได้ทันที
บทความใกล้เคียง
