Honda CB400 แต่ละรุ่นต่างกันยังไง มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง

สารบัญ
Honda CB400 มอเตอร์ไซค์ Sport-Naked รุ่นยอดนิยมในตำนานที่เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 1974 ต่อให้ปัจจุบันมีข่าวว่ารถ Honda CB400 ได้เลิกผลิตที่ญี่ปุ่นไปแล้วแต่ขณะเดียวกันก็มีข่าวลือออกมาว่าจะมีรถ Honda CB400 เจเนอเรชันใหม่จะกลับมาผลิตอีกครั้งในปี 2025 ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่หากถามถึงความนิยมต่อรถ Honda CB400 นั้นเรียกว่าได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการซื้อไปใช้ในชีวิตประจำวัน และการซื้อสะสม เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาเหล่าคนรักรถทุกคนไปย้อนดูพัฒนาการรถฮอนด้า CB400 ทั้งหมดมีกี่รุ่น ข้อดี-ข้อเสียแต่ละรุ่นมีอะไรบ้าง ติดตามพร้อมกันได้เลย

Honda CB400 มีกี่รุ่น? ผลิตจากประเทศอะไร
จุดเริ่มต้นการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า CB400 โมเดลแรกมีตั้งแต่ปี 1974 โดยได้รับการขนานนามว่าเป็นรถญี่ปุ่นคันแรกที่ทั้งดีไซน์และสมรรถนะโดดเด่น แต่หากถามถึงรุ่นดังและเป็นที่จดจำของหลายๆ คนนั้นคือรถ Honda CB400 ที่เปิดตัวในปี 1992 เป็นรุ่น “CB400 Super Four” โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้า CB400 ผลิตจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลักแต่ก็ได้มีการขยายฐานการผลิตไปยังประเทศจีนด้วย
ไทม์ไลน์การพัฒนา Honda CB400
หากจัดกลุ่มตามไทม์ไลน์การพัฒนารถ Honda CB400 มีทั้งหมด 6 รุ่นหลักไม่รวมรุ่นย่อย ดังนี้
- Honda CB400F หรือที่นิยมเรียกกันว่า "400 Four" ปี 1975-1977
- Honda CB-1 (CB400F) ปี 1989-1990
- CB400 Super Four ปี 1992–2022
- CB400SS ปี 2002–2006
- CB400F (NC47) ปี 2013-2016

รวมรถ Honda CB400 ทุกรุ่นนิยม มีรุ่นไหนบ้าง
เห็นจากไทม์ไลน์ไปแล้วจะเห็นได้ว่ารถ CB400 มีการเดินทางมาอย่างยาวนานและยังมีการออกรุ่นใหม่มาอยู่เรื่อยๆ สำหรับใครที่กำลังทำการบ้านหรือหาข้อมูลของรถรุ่นนี้ ทางเอ็นโซ่จึงได้รวบรวมรถฮอนด้า CB400 ทั้งหมดที่เป็นรุ่นยอดนิยมในประเทศไทย แถมใครกำลังเล็งรุ่นไหนไว้สามารถซื้อรถ CB400 มือสอง ราคาถูกที่ ENNXO ได้เลยทันที สำหรับใครที่พร้อมแล้วไปส่องรถรุ่นนิยมทั้งหมดได้เลย
Honda CB400 Super Four
รถฮอนด้า CB400 Super Four เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของรถตระกูลนี้ ผลิตมาจากแนวคิด “PROJECT BIG-1” ดีไซน์ Naked Bike ที่ดุดัน และสปอร์ตในเวลาเดียวกัน ด้านเครื่องยนต์ก็พัฒนาต่อยอดจากรุ่น CB-1 โดยเน้นไปที่เรื่องการจัดการกำลังเครื่องให้มีรอบเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้การขับขี่สนุกและแรงมากขึ้น
สเปคเครื่องยนต์ Honda CB400 Super Four
- เครื่องยนต์: 4 สูบเรียง 4 จังหวะ SOHC/DOHC 16 วาล์ว
- ปริมาตรกระบอกสูบ: 399 ซีซี
- ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: คาร์บูเรเตอร์
- ระบบเกียร์: ธรรมดา 6 ระดับ
- กระบอกสูบxระยะชัก: 55 × 42 มม.
- ความเร็วสูงสุด: 180‑190 กม./ชม.
- แรงบิดสูงสุด: 39 นิวตันเมตร ประมาณ 9,500 รอบ/นาที
- อัตราส่วนการบีบอัด: 11.3 : 1
- ระบบเบรก:
- เบรกหน้าดิสก์เบรกคู่ ขนาด 296 มม.
- เบรกหลังดิสก์เบรกเดี่ยว ขนาด 240 มม.
- ระบบกันสะเทือน:
- โช้คหน้าเทเลสโคปิก
- โช้คหลังคู่แบบสปริงพรีโหลด ปรับระดับได้
- น้ำหนักสุทธิ: 194–199 กิโลกรัม
ข้อดี-ข้อเสีย Honda CB400 Super Four
สำหรับข้อดี-ข้อเสียของมอเตอร์ไซค์ Honda CB400 Super Four มีอะไรบ้าง เช็คทั้งหมดก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนี้
ข้อดี | ข้อเสีย |
เครื่อง 4 สูบ สมรรถนะดี | น้ำหนักค่อนข้างมาก |
ทนทาน | ค่าดูแลรักษาค่อนข้างสูง |
ควบคุมง่าย | อะไหล่รุ่นเก่าหายาก |

Honda CB400 Super Four VTEC
สำหรับรถ CB400 Super Four VTEC เป็นรุ่นที่มีระบบ VTEC ทำงานแบบอัตโนมัติมีหน้าที่คอยปรับการทำงานของจำนวนวาล์วตามรอบเครื่องยนต์ โดยระบบจะใช้ 2 วาล์วต่อสูบ เมื่อรอบต่ำช่วยให้ประหยัดน้ำมัน และมีแรงบิดดี นอกจากนี้ยังเปิด 4 วาล์วต่อสูบเมื่อถึงรอบที่กำหนดประมาณ 6,750-6,800 RPM เพิ่มกำลังแรงม้าและเสียงเครื่องที่เร้าใจมากขึ้น โดยรถ Honda CB400 Super Four VTEC สามารถแบ่งออกเป็น 4 รุ่น ดังนี้
- CB400SF VTEC I รถรุ่นแรกที่นำระบบ VTEC มาใช้ วางขายในปี 1999-2001 มาพร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงคาร์บูเรเตอร์ และระบบ VTEC จะทำงานเมื่อเครื่องยนต์อยู่ระดับ 6,750 RPM ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟหน้าเดี่ยวทรงกลมและเรือนไมล์แบบอะนาล็อก
- CB400SF VTEC 2 มาต่อที่รถ CB400 Spec 2 วางขายในปี 2002-2003 ที่ปรับระบบ VTEC ให้ตอบสนองไวกว่าเดิม ด้านฟีเจอร์เรือนไมล์มีหน้าจอดิจิทัลเพิ่มเข้ามา
- CB400SF VTEC 3 เป็นรุ่นที่วางขายในปี 2004-2007 มีการควบคุมระบบ VTEC ด้วยกล่อง ECU ช่วยให้การทำงานแม่นยำและเสถียรมากขึ้น โดยรอบการทำงานอยู่ที่ 6,300-6,800 RPM ขึ้นอยู่กับรถในแต่ละปี
- CB400SF Revo (TEC 4) เป็นรุ่นล่าสุดที่มีการพัฒนาเยอะมาก แถมยังมีรุ่นย่อยเป็นรุ่น Super Bol d’Or (SB) ได้เพิ่มแฟริ่งหน้าเข้ามา
สเปคเครื่องยนต์ Honda CB400 Super Four VTEC
เนื่องจาก Honda CB400 Super Four VTEC ทุกรุ่นมีสเปคเครื่องยนต์เหมือนกันซึ่งรายละเอียดทั้งหมดมีดังนี้
- เครื่องยนต์: 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว
- ปริมาตรกระบอกสูบ: 399 ซีซี
- ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: หัวฉีด PGM-FI (ในรุ่นใหม่ๆ)
- ระบบเกียร์: 6 สปีด
- กระบอกสูบxระยะชัก: 55 x 42 มม.
- ความเร็วสูงสุด: 180-190 km/h
- แรงบิดสูงสุด: 39 นิวตันเมตร ประมาณ 9,500 รอบ/นาที
- อัตราส่วนการบีบอัด: 11.3 : 1
- ระบบเบรก:
- เบรกหน้าดิสก์เบรกคู่ (296 มม.) + คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ
- เบรกหลังดิสก์เบรกเดี่ยว (240 มม.) + คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ
- ระบบกันสะเทือน:
- โช้คหน้าเทเลสโคปิคแบบหัวตั้ง
- โช้คหลังสวิงอาร์ม + โช้คคู่ Showa ปรับพรีโหลดได้
- น้ำหนักสุทธิ: 199 กิโลกรัม รุ่นมี ABS หนัก 205 กิโลกรัม
ข้อดี-ข้อเสียของ Honda CB400 Super Four VTEC
มาดูข้อดีข้อเสียทั้งหมดของรถ CB400 Super Four VTEC ว่ามีอะไรบ้าง
ข้อดี | ข้อเสีย |
อายุการใช้งานนาน สมรรถนะดี | ระบบ VTEC การดูแลยากต้องมีผู้เชี่ยวชาญ |
ระบบ VTEC ช่วยประหยัดน้ำมัน | อะไหล่บางชิ้นหายากและราคาแพง |
ขี่ง่าย มือใหม่ขับได้ | น้ำหนักเยอะ |

เปรียบเทียบ CB400 VTEC 1 2 3 และ 4 ต่างกันยังไง
รุ่น | ระบบจ่ายน้ำมัน | ระบบ VTEC | แรงม้า | การพัฒนา |
VTEC I | คาร์บูเรเตอร์ | เริ่มต้น VTEC | 53 | ระบบพื้นฐาน VTEC |
VTEC 2 | คาร์บูเรเตอร์ | ปรับไวขึ้น | 53 | เกียร์/วาล์วตอบสนองดีขึ้น |
VTEC 3 | หัวฉีด PGM-FI | ใช้ ECU ควบคุม | 53 | ประหยัด/นิ่ง/ทันสมัยขึ้น |
Revo | หัวฉีด PGM-FI | ใช้ ECU โดยตรง | 53 | ปรับเครื่องใหม่เกือบหมด |

Honda CB400 Four (NC36)
มอเตอร์ไซค์ Honda CB400 Four (NC36) เป็นรุ่นที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เรโทรย้อนยุคได้กลิ่นอายของรถ CB400F รถรุ่นบุกเบิกในยุค 1970s แถมยังมีถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เบาะตอนเดียว ไฟหน้าทรงกลม ล้อซี่ลวด มีความคลาสสิก เป็นอีกรุ่นที่สายสะสมรถวินเทจจะชอบมากๆ
สเปคเครื่องยนต์ Honda CB400 Four (NC36)
- เครื่องยนต์: 4 สูบเรียง 4 จังหวะ DOHC 16 วาล์ว
- ปริมาตรกระบอกสูบ: 399 ซีซี
- ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยอากาศ + ออยคูลเลอร์
- ระบบจ่ายน้ำมัน: คาร์บูเรเตอร์ 4 ตัว (CV Keihin)
- ระบบเกียร์: 6 สปีด
- กระบอกสูบxระยะชัก: 55 x 42 มม.
- ความเร็วสูงสุด: 170-180 km/h
- แรงบิดสูงสุด: 38 นิวตันเมตร ประมาณ 9,500 รอบ/นาที
- อัตราส่วนการบีบอัด: 10.5 : 1
- ระบบเบรก:
- เบรกหน้าดิสก์เบรกคู่ พร้อมคาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
- เบรกหลังดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมคาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ
- ระบบกันสะเทือน:
- โช้คหน้าเทเลสโคปิกแบบธรรมดา
- โช้คหลังคู่ปรับพรีโหลดได้
- น้ำหนักสุทธิ: 190 กิโลกรัม
ข้อดี-ข้อเสียของ Honda CB400 Four (NC36)
ข้อดี | ข้อเสีย |
ดีไซน์เรโทร วินเทจแท้ ไม่ต้องแต่งเพิ่ม | ไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ |
ดูแลง่าย ระบบไม่ซับซ้อน | อะไหล่บางชิ้นหายาก |
โครงสร้างทนทาน | ระบบคาร์บูเรเตอร์ ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ |
-สเปค.jpg)
Honda CB400SS
Honda CB400SS มอเตอร์ไซค์สไตล์ Scrambler ซึ่งมีการผลิตในช่วงต้นของปี 2000s ซึ่งต้องบอกก่อนว่ารถ CB400SS ไม่มีขายในไทยโดยตรง ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมนำเข้ามาขายมือสองมากกว่า จุดเด่นของรถรุ่นนี้มาพร้อมถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เบาะเรียบ และท่อไอเสียยกสูงสไตล์รถคลาสสิก
สเปคเครื่องยนต์ Honda CB400SS
- เครื่องยนต์: 4 จังหวะ 1 สูบ SOHC 4 วาล์ว
- ปริมาตรกระบอกสูบ: 397 ซีซี
- ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยอากาศ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: คาร์บูเรเตอร์ (Keihin NCVK38)
- ระบบเกียร์: 5 สปีด (Manual)
- กระบอกสูบxระยะชัก: 85 x 70 มม.
- ความเร็วสูงสุด: 135-145 km/h
- แรงบิดสูงสุด: 31 นิวตันเมตร ประมาณ 5,500 รอบ/นาที
- อัตราส่วนการบีบอัด: 8.8 : 1
- ระบบเบรก:
- เบรกหน้าคาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ
- เบรกหลังดรัมเบรก
- ระบบกันสะเทือน:
- โช้คหน้าเทเลสโคปิกธรรมดา ขนาด 35 มม.
- โช้คหลังคู่ปรับพรีโหลดได้
- น้ำหนักสุทธิ: 156 กิโลกรัม
ข้อดี-ข้อเสียของ Honda CB400SS
สำหรับสไตล์เรโทรวินเทจอย่าง Honda CB400SS จะมีข้อดีข้อเสียเป็นอะไรบ้าง เช็คได้ที่นี่
ข้อดี | ข้อเสีย |
น้ำหนักเบา ควบคุมง่าย | แรงน้อยเมื่อเทียบกับรถอื่นๆ ที่สเปคใกล้เคียงกัน |
เสียงท่อเพราะ มีความดิบและเท่ | เบรกหลังเป็นดรัมเบรกไม่ค่อยมีแรง |
ดีไซน์วินเทจ แต่งเพิ่มยิ่งสวย | อะไหล่บางชิ้นหายาก |

Honda CB400F
Honda CB400F มอเตอร์ไซค์ Naked Bike อีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ได้มีขายในไทยอย่างเป็นทางการแต่มีการนำเข้ามาขายมือสองในไทย และดูเหมือนจะเป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยม จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ดีไซน์สปอร์ต ทันสมัยมากๆ แถมยังขี่ง่ายอีกด้วย
สเปคเครื่องยนต์ Honda CB400F
- เครื่องยนต์: 4 จังหวะ 2 สูบเรียง (Parallel Twin) DOHC 8 วาล์ว
- ปริมาตรกระบอกสูบ: 399 ซีซี
- ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยน้ำ
- ระบบจ่ายน้ำมัน: หัวฉีด PGM-FI
- ระบบเกียร์: 6 สปีด
- กระบอกสูบxระยะชัก: 67.0 x 56.6 มม.
- ความเร็วสูงสุด: 175-180 km/h
- แรงบิดสูงสุด: 37 นิวตันเมตร ประมาณ 7,500 รอบ/นาที
- อัตราส่วนการบีบอัด: 11.0 : 1
- ระบบเบรก:
- เบรกหน้าดิสก์เบรกเดี่ยว ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
- เบรกหลังดิสก์เบรกเดี่ยว 240 มม.
- ระบบกันสะเทือน:
- โช้คหน้าเทเลสโคปิค 41 มม.
- โช้คหลังโมโนโช้คเดี่ยว ปรับพรีโหลดได้
- น้ำหนักสุทธิ: 192 กิโลกรัม
ข้อดี-ข้อเสียของ Honda CB400F
ข้อดี | ข้อเสีย |
ดีไซน์สวย ทันสมัย | เครื่อง 2 สูบเสียง และความลื่นไม่เท่าเครื่อง 4 สูบ |
ประหยัดน้ำมัน | พลังน้อย |
ขับง่าย มือใหม่ขับได้ | หาซื้อยาก |

ต่อให้รถ Honda CB400 จะหาซื้อยากขนาดไหน ก็ไม่ต้องห่วง หากเหล่านักซิ่งทุกคนได้รู้จักกับ ENNXO แหล่งซื้อขายมอเตอร์ไซค์มือสองยอดนิยม เป็นตลาดสำหรับซื้อขายมอเตอร์ไซค์ เจ้าของขายเอง สภาพดี แถมยังน่าเชื่อถือ โดยที่ ENNXO มีมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นพร้อมให้เลือกซื้อ ขายกันได้ตามความสนใจ โดยสามารถเข้าไปเลือกหารถ Honda CB400 คันที่สนใจผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ENNXO ได้เลย เพียงแค่สมัครสมาชิกเพื่อยืนยันตัวตนจากนั้นจะหารถคันในสเปค หรือลงขาย Honda CB400 ฟรี ก็สามารถดำเนินการได้ทันที ที่สุดของความสะดวกสบายต้องยกให้เอ็นโซ่
