แมวพันธุ์ไทยมีกี่สายพันธุ์ รู้จักแมวไทยมงคลโบราณ หายาก ทั้งหมด
แชร์ไปยัง :
สารบัญ
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงสุดน่ารัก ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นั้นมีประวัติความเป็นมายาวนาน อย่างแมวไทย ก็นับว่าเป็นแมวโบราณ ที่ปรากฏในสมุดข่อยโบราณ มีทั้งหมด 23 ชนิด แต่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น ใครที่เป็นทาสแมวกำลังมองหาแมวไทยมาเลี้ยง รวมถึงอยากรู้เรื่องราวสายพันธุ์แมวไทยทั้งหมด อ่านเรื่องราวของเจ้าเหมียวไทยได้เลยที่นี่
รวมสายพันธุ์แมวไทยทั้งหมด
สมุดข่อยโบราณ เป็นเอกสารที่บันทึกในช่วงสมัยอยุธยา โดยในบันทึกมีการจำแนกลักษณะของแมวเป็นแมวมงคล 17 ชนิด และแมวให้โทษ 6 ชนิด แต่ยังมีแมวขาวมณีที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณ เพิ่งมาปรากฏในบันทึกสมุดข่อยช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ดังนั้นในบทความนี้ขอพูดถึงแมวไทยมงคลทั้งหมด 18 สายพันธุ์
แมวไทยมงคล 18 สายพันธุ์
แมวพันธุ์ไทยมีทั้งหมด 18 สายพันธุ์ ซึ่งนับรวมสายพันธุ์แมวที่ปรากฏทั้งในสมุดข่อยโบราณสมัยอยุธยาและช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นแต่ปัจจุบันเหลือเพียง 5 สายพันธุ์เท่านั้น ซึ่งทุกสายพันธุ์ที่จะพูดถึงนี้ล้วนเป็นแมวไทยมงคลทั้งสิ้น มารู้จักลักษณะ ความเชื่อ นิสัย และสถานะปัจจุบันของแต่ละสายพันธุ์กัน
แมววิเชียรมาศ
“ปากบน หาง สี่เท้า โสตสอง แปดแห่งดำดุจปอง
สีเนตรดั่งเรืองรอง นาคสวาดิ ไว้เอย
นามวิเชียรมาศไซร้ สอดพื้นขนยาว”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมววิเชียรมาศ (Siamese Cat) หรือ เพชรแห่งเดือนจันทร์, แมวแก้ว มีลักษณะเด่นคือ สีขนเป็นสีขาวนวล มีแต้มสีเข้มทั้งหมด 9 จุด คือ ใบหน้า หาง เท้าสี่ข้าง หูสองข้าง อวัยวะเพศ และมีตาสีฟ้า นอกจากนี้สีขนน้องจะชัดขึ้นตามอุณหภูมิอีกด้วย ส่วนคำพรรณนาแมววิเชียรมาศในสมุดข่อยโบราณ ที่กล่าวถึงจุดแต้มนั้นมี 8 แต้ม ซึ่งละตำแหน่งอวัยเพศไว้ แต่ปัจจุบันต้องเป็น 9 ตำแหน่ง เพราะเป็นลักษณะที่ได้รับการยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ
- ความเชื่อแมววิเชียรมาศ: นำความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เจ้าของ
- นิสัยแมววิเชียรมาศ: ชอบพูด ติดเจ้าของ เป็นมิตร และฉลาด
- สถานะปัจจุบัน: เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยง
แมวสีสวาด
“วิฬาร์มาเลศพื้น พรรณกาย
ขนดังดอกเลาราย เรียบร้อย
โคนขนเมฆมอปลาย ปลอมเศวต
ตาดั่งน้ำค้างย้อย หยาดต้องสัตบง”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวสีสวาด หรือแมวโคราช, แมวมาเลศ (Korat Cat) มีลักษณะเด่นคือ สีขนเป็นสีเทาอมเขียวทั้งตัว เหมือนกับสีของดอกเลา โดยโคนขนเป็นสีเมฆ ปลายขนเป็นสีเงินเงางาม ในอดีตแมวสีสวาดจึงถูกนำไปใช้ในพิธีแห่นางแมวและงานมงคลต่างๆ นอกจากนี้แมวสีสวาดยังเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมา
- ความเชื่อแมวสีสวาด: เสริมเรื่องความเมตตามหานิยม โชคลาภ คิดสิ่งใดก็จะราบรื่น
- นิสัยแมวสีสวาด: ขี้เล่นแต่สุขุม ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ และฉลาด
- สถานะปัจจุบัน: หาค่อนข้างยาก จึงมีการจัดตั้งชมรมอนุรักษ์แมวโคราชขึ้นมา
แมวขาวมณี
"แมวขาวปลอด เป็นแมวแก้วหาค่ามิได้ ให้นรชนผู้มีปัญญาหาเลี้ยงไว้เถิด"
ที่มา: สมุดข่อยวัดอรุณฯ
แมวขาวมณี (Khao Manee Cat) หรือแมวขาวปลอด มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีขาวล้วน และตาสีฟ้า ทว่ายีนที่ทำให้ขนเป็นสีขาว ตาสีฟ้านี้ ส่งผลต่อระบบการได้ยินมากกว่าแมวขนสีขาว ตาสีอื่นๆ ดังนั้นจึงพบภาวะหูหนวกในแมวขาวมณีได้บ่อย
- ความเชื่อแมวขาวมณี: เสริมโชคลาภ นำความเจริญมาสู่เจ้าของ
- นิสัยแมวขาวมณี: กระตือรือร้น พูดเก่ง ขี้เล่น อยากรู้อยากเห็น และฉลาด
- สถานะปัจจุบัน: เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยง
แมวศุภลักษณ์
“เฉิดโฉมสุภลักษณ์ล้ำ วิลาวรรณ
สีดังทองแดงฉัน เพริศแพร้ว
แสงเนตรเฉกแสงพรร โณภาส
กันสรรพโทษแคล้ว สิ่งร้ายคืนเกษม”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวศุภลักษณ์ (Suphalak Cat) หรือทองแดง มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีน้ำตาลแดงเข้มหรือสีทองแดงทั้งตัว ขนสั้น ตาสีเหลืองอำพัน ในอดีตแมวศุภลักษณ์ได้รับความนิยมเลี้ยงในหมู่ชนชั้นสูง ถือว่าเป็นสัญลักษณ์การแสดงฐานะทางสังคม
- ความเชื่อแมวศุภลักษณ์: ผู้เลี้ยงจะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ได้โชคลาภ
- นิสัยแมวศุภลักษณ์: ขี้อ้อน รักเจ้าของ ร่าเริง และฉลาด
- สถานะปัจจุบัน: หาค่อนข้างยาก ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์และกำลังฟื้นฟูสายพันธุ์
แมวโกนจา
“หนึ่งกายดำปลอดมีศรี เลื่อมแสงรูจี
ดังแกล้งมาลบลายทา เลี้ยงดีมีคุณสหัศา
จงเร่งหามา เลี้ยงไว้อย่าแคลงสงสัย”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวโกนจา (Konja Cat) หรือดำปลอด มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำทั่วทั้งตัว ขนมันเงางาม มีดวงตาสีเหลืองอมเขียว หางยาวเรียวแหลม ในอดีตนิยมเลี้ยงแมวโกนจาเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย
- ความเชื่อแมวโกนจา: ผู้เลี้ยงได้รับโชคลาภ ประกอบอาชีพค้าขายรุ่งเรือง
- นิสัยแมวโกนจา: รักอิสระ ชอบสำรวจ ขี้เล่น และฉลาด
- สถานะปัจจุบัน: หาเลี้ยงง่าย ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
แมวนิลรัตน์
“สมยานามชาติเชื้อ นิลรัตน์
กายดำสิทธิสามรรถ เลิศพร้อม
ฟันเนตรเล็บลิ้นทัต นิลคู่ กายนา
หางสุดเรียวยาวน้อม นอบโน้มเสมอเศียร”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวนิลรัตน์ (Nilarat Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีสีดำสนิททั้งตัว ทั้งตา เล็บ ลิ้น ฟัน กระดูก และมีหางที่ยาวมาก ซึ่งเป็นสายพันธุ์แมวที่มีการบันทึกไว้ในสมุดข่อยโบราณ แต่เกิดข้อถกเถียงว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ถือว่าเป็นแมวในตำนาน ที่ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว
- ความเชื่อแมวนิลรัตน์: ปราศจากอันตราย เลี้ยงไว้จะได้เป็นเศรษฐี
- สถานะปัจจุบัน: สูญพันธุ์, เกิดข้อสงสัยว่ามีสายพันธุ์นี้จริงหรือไม่
แมววิลาศ
“ราวคอทับถงาดท้อง สองหู
ขาวตลอดหางดู ดอกฝ้าย
มีเสวตรสี่บาทตรู สองเนตร์ เขียวแฮ
งามวิลาศงามคล้าย โภคพื้น กายดำ”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมววิลาศ (Vilas Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำทั้งตัว ยกเว้นใบหู ปากล่างถึงช่วงอก ปลายเท้า และท้ายทอยบนหลังถึงปลายหางจะเป็นสีขาว มีขนเรียบ หางเรียวยาว สำหรับสายพันธุ์นี้มีการค้นพบล่าสุดในปี 2011 จำนวน 10 ตัวเท่านั้น
- ความเชื่อแมววิลาศ: ผู้เลี้ยงได้เป็นใหญ่ มีโชคลาภ ทรัพย์สมบัติไหลมาเทมา
- สถานะปัจจุบัน: หายาก
แมวเก้าแต้ม
“สลับดวงคอศิระต้น ขาหลัง สองไหล่
กำหนดทั้งบาทหน้า มีโลมดำบดบัง
ปลายบาท สองแฮ เก้าแห่งดำดุจม้า
ผ่าพื้นขาวเสมอ”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวเก้าแต้ม (Kao Taem Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีขาว และมีจุดสีดำแต้มทั้งหมด 9 จุด บริเวณหัว คอ โคนขาหน้า โคนขาหลัง ไหล่ทั้งสอง และโคนหาง โดยลักษณะของแต้มมีทั้งแบบทรงเหลี่ยมและทรงกลม
- ความเชื่อแมวเก้าแต้ม: ค้าขายดี มีโชคลาภ ร่ำรวย
- สถานะปัจจุบัน: หายาก
แมวรัตนกำพล
“สมยากาเยศย้อม สีสังข์ ชื่อรัตนกำพลหวัง ว่าไว้
ดำรัดรอบกายจัง หวัดอก หลังนา
ตาดั่งเนื้อทองได้ หกน้ำเนียรแสง”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวรัตนกำพล (Rattanakamphon Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีขาวทั่วทั้งตัวเหมือนสีของหอยสังข์ ยกเว้นบริเวณหน้าอกจะมีแถบขนสีดำคาดลำตัว และมีดวงตาสีเหลืองทอง
- ความเชื่อแมวรัตนกำพล: มีอำนาจบารมี ได้ยศถาบรรดาศักดิ์
- สถานะปัจจุบัน: หายาก
แมวนิลจักร
“นิลจักรบอกชื่อช้อย ลักษณา
ขนดำเวียนวงตา เฉกย้อม
เหนือหลังดั่งอานอา ชาชาติ งามดั่งวงหมึกพร้อม”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวนิลจักร (Nilachak Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำทั้งตัว ยกเว้นบริเวณลำคอจะมีสีขาวล้อมรอบ เหมือนกับสวมปลอกคอ
- ความเชื่อแมวนิลจักร: ร่ำรวยมั่งคั่ง มีเงินมีทอง
- สถานะปัจจุบัน: สูญพันธุ์
แมวมุลิลา
“มุลิลาปรากฏแจ้ง นามสมาน
ใบโสตสองเสวตรปาน ปักล้วน
ศรีตาผกาบาน เบญจมาศ เหลืองนา
หางสุดโลมดำถ้วน บาทพื้นกายเศียร”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวมุลิลา (Mulila Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำทั่วทั้งตัว ยกเว้นบริเวณหูเป็นสีขาว ดวงตาสีเหลืองเหมือนกับสีของดอกเบญจมาศ ว่ากันว่าแมวสายพันธุ์นี้เลี้ยงได้เฉพาะพระสงฆ์เท่านั้น
- ความเชื่อแมวมุลิลา: ผู้เลี้ยงมีสติปัญญาเป็นเลิศ
- สถานะปัจจุบัน: สูญพันธุ์
แมวกรอบแว่น
“นามกรอบแว่นพื้น เสวตรผา
ขนดำเวียนวงตา เฉกย้อม
งามดั่งวงหมึกพร้อม อยู่ด้าวใดแสวง”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวกรอบแว่น (Krop Waen Cat) หรือ อานม้า มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีขาวทั่วทั้งตัว ยกเว้นบริเวณขอบตาจะเป็นสีดำเหมือนน้องสวมแว่นอยู่ และบริเวณหลังมีสีดำเหมือนกับอานม้า
- ความเชื่อแมวกรอบแว่น: มีอำนาจ คิดสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จ
- สถานะปัจจุบัน: หายาก
แมวปัดเสวตร
“ปัศเวตลักษณนั้น ปลายนา
ขาวตลอดหางหา ยากพร้อม
เวียนเถลิงสอสังข์ปลาย ณาสิก อยู่แฮ
ตาดั่งศรีธงย้อม หยาดน้ำจางแสง”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวปัดเสวตร (Pat Sawet Cat) หรือปัดตลอด มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำ เงามันทั่วทั้งตัว ยกเว้นบริเวณตั้งแต่ปลายจมูกจนถึงปลายหางจะมีขนสีขาว ส่วนดวงตาเป็นสีเหลือง
- ความเชื่อแมวปัดเสวตร: มีโชคลาภ ได้รับความมั่งคั่ง
- สถานะปัจจุบัน: หายาก
แมวกระจอก
“มีนามกระจอกนั้น ตัวกลม งามนา
กายดำสีสรรพสม สอดพื้น
ขนขาวเฉกเมฆลม ลอยรอบ ปากแฮ
ตาประสมสีชื้น เปรียบน้ำรงผสาน”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวกระจอก (Krajok Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำมันทั่วทั้งตัว ยกเว้นบริเวณรอบปากมีขนสีขาว ลำตัวจะอ้วนกลม มีดวงตาสีเหลืองอมเขียว และมีหางยาว ปลายแหลม
- ความเชื่อแมวกระจอก: มีเงินทอง ได้ที่ดิน
- สถานะปัจจุบัน: สูญพันธุ์
แมวสิงหเสพย์
“เสนาะโสงหเสพยชื่อเชื้อ ดำกาย
ขาวที่ริมปากราย รอบล้อม
จตุบทหมดเฟศน้อม นามแสดง ไว้นา
โลมสกลกายแสง หมึกล้าย”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวสิงหเสพย์ (Singhasape Cat) หรือแมวโสงหเสพย แมวพันธุ์นี้จะมีลักษณะคล้ายกับแมวกระจอก คือมีสีดำทั่วทั้งตัว มีสีขาวตรงบริเวณปาก ตาสีเหลืองทอง แต่แตกต่างกันตรงที่แมวสิงหเสพย์จะมีขนสีขาวตรงจมูกและรอบคอเพิ่มเข้ามา
- ความเชื่อแมวสิงหเสพย์: ได้เป็นเจ้าคนนายคน ได้ที่ดิน
- สถานะปัจจุบัน: สูญพันธุ์
แมวการเวก
“มีนามการเวกพื้น กายดำ ศรีศรลักษณนำ แนะไว้
สองเนตรเลื่อมแสงคำ คือมาศ
ด่างที่ณาษาไซร้ เสวตรล้วนรอบเสมอ”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวการเวก (Karaket Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำทั่วทั้งตัว ยกเว้นบริเวณปลายจมูกจะมีสีขาว ส่วนสีดวงตาเป็นสีเหลืองอำพัน โดยลักษณะแบบนี้หลายคนมักเรียกว่าแมวจมูกด่าง
- ความเชื่อแมวการเวก: ได้โชคลาภ ได้ยศศักดิ์
- สถานะปัจจุบัน: สูญพันธุ์, เกิดข้อสงสัยว่ามีสายพันธุ์นี้จริงหรือไม่
แมวจตุบท
“โลมสกลกายแสง หมึกคล้าย
ขาวสี่เท้าทั้งหลาย ลามเล็บ
ในนัยน์ตาแสงฉาย เหลืองอ่อน
เปรียบดั่งสีดอกแย้ม โสนต้องตามแนว”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวจตุบท (Jatubot Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำทั่วทั้งตัว ยกเว้นบริเวณปลายเท้าขึ้นมาถึงข้อพับจะเป็นสีขาวทั้งสี่ข้าง มีดวงตาสีเหลืองคล้ายดอกโสน ว่ากันว่าแมวจตุบทเลี้ยงได้เฉพาะเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
- ความเชื่อแมวจตุบท: ให้คุณแก่ผู้เลี้ยง แต่ต้องเป็นบุคคลชั้นสูงเท่านั้น
- สถานะปัจจุบัน: สูญพันธุ์
แมวแซมเสวตร
“ขนดำแซมเสวตรสิ้น สรรพภางค์
ขนคู่โลมกายบาง แบบน้อย
ทรงระเบียบสำอาง เรียวรุนห์ งามนา
ตาดั่งแสงหิ่งห้อย เปรียบน้ำ ทองทา”
ที่มา: สมุดข่อยโบราณ
แมวแซมเสวตร (Sam Sawet Cat) มีลักษณะเด่นคือ มีขนสีดำแซมสีขาว มีขนสั้น ดวงตาสีเขียว ทว่าภายหลังเกิดข้อสันนิษฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า ลักษณะขนสีขาวแซมนี้ เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นชั่วคราวของแมวที่เกิดภาวะ Fever Coat ที่มีสาเหตุจากแม่แมวป่วยแล้วกำลังตั้งท้อง จึงส่งผลต่อเม็ดสีของลูกแมว อย่างไรก็ตามเมื่อลูกแมวแข็งแรงขึ้น ขนแซมสีขาวจะหายไป
- ความเชื่อแมวแซมเสวตร: เป็นที่รัก มีโชคลาภ
- สถานะปัจจุบัน: หายาก, อาจจำสับสนระหว่างแมวในตำนานกับแมวที่อยู่ภาวะ Fever Coat
ลักษณะแมวให้โทษ 6 ชนิด
นอกจากแมวไทยมงคลที่ถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยแล้ว ยังมีบันทึกเกี่ยวกับแมวให้โทษ 6 ชนิดอีกด้วย โดยเป็นลักษณะแมวที่ไม่ควรเลี้ยง เพราะเชื่อว่าเป็นแมวอัปมงคลที่จะนำความโชคร้าย ความเดือดร้อนมาสู่คนเลี้ยง มีดังนี้
- ทุพพลเพศ มีลำตัวสีขาว ดวงตาสีแดง หางม้วน มีพฤติกรรมชอบขโมยปลาในตอนกลางคืน หากใครเลี้ยงจะพบเจอแต่เรื่องเดือดร้อน
- พรรณพยัคฆ์ / ลายเสือ มีลายคล้ายลายเสือ ขนสาก มีตาสีแดงเจือสีโคลน ชอบร้องเสียงโหยหวน หากใครเลี้ยงจะเป็นการนำภัยพิบัติมาสู่บ้าน
- ปีศาจ มีลักษณะตัวผอม หนังยาน มีพฤติกรรมชอบกินลูกตัวเอง ซึ่งเป็นแมวที่ห้ามเลี้ยงเด็ดขาด
- หิณโทษ เป็นแมวตัวเมียที่มีขนงาม แต่มักแท้งลูก หากเลี้ยงแมวชนิดนี้จะนำพาความเลวร้ายมาสู่บ้าน
- กอบเพลิง เป็นแมวขี้อาย มักชอบหลบซ่อน ไม่ให้คนจับ หากมีแมวนี้ในบ้าน คนเลี้ยงจะพบเจอแต่เรื่องไม่มีความสุข
- เหน็บเสนียด เป็นแมวพิการ มีโคนหางสีด่าง มีพฤติกรรมชอบเอาหางซ่อนและชอบกัดแมวตัวอื่น หากได้เลี้ยงแล้วจะเจอแต่เรื่องน่าอับอาย
จากลักษณะที่เคยถูกจัดเป็นแมวให้โทษในอดีต ส่วนใหญ่มักเป็นพฤติกรรมหรือรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากแมวทั่วไป จึงนำมาซึ่งความเชื่อที่ว่าเป็นแมวอัปมงคล ไม่ควรเลี้ยง
อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ลักษณะแมวเหล่านี้ล้วนสามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลทางสุขภาพ พฤติกรรม และพันธุกรรม พร้อมด้วยวิธีการดูแลที่ถูกต้อง
วิเคราะห์ลักษณะแมวให้โทษตามหลักวิทยาศาสตร์
แมวที่มีลักษณะให้โทษนี้ ไม่ควรถูกมองว่าเป็นสิ่งอัปมงคล แต่ควรได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดยลักษณะของแมวให้โทษ สามารถอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ดังนี้
ลักษณะแมวให้โทษ | รายละเอียดด้านสุขภาพ/พฤติกรรม | แนะนำการเลี้ยงดู |
|---|---|---|
ทุพพลเพศ | เกิดภาวะผิดปกติทางเม็ดสี เป็นแมวเผือกที่เสี่ยงต่อการมองเห็นบกพร่อง เพราะตาไวต่อแสง ส่วนพฤติกรรมขโมยของกินเพราะเกิดจากความหิว | ควรเลี้ยงในพื้นที่ที่หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า และให้อาหารอย่างสม่ำเสมอ |
พรรณพยัคฆ์ | มีขนสากเกิดจากภาวะขาดสารอาหาร หรือดูแลขนผิดวิธี ส่วนร้องโหยหวนมาจากพฤติกรรมติดสัด หรือมีภาวะเครียด เจ็บป่วย และด้วยเป็นลายเสือจึงมีนิสัยที่คึกคักเป็นพิเศษเหมือนแมวเบงกอล | ปรึกษาสัตวแพทย์ในเรื่องของการดูแลผิวหนัง การให้อาหาร และหาสาเหตุการเจ็บป่วยต่างๆ หากติดสัดควรทำหมัน |
ปีศาจ | การกินลูก มาจากภาวะเครียด หรือลูกแมวอ่อนแอ แม่แมวจะผอมเพราะขาดสารอาหาร | ควรได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง และได้รับอาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างร่างกาย |
หิณโทษ | การแท้งลูกบ่อย อาจเกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ | ควรทำหมัน |
กอบเพลิง | พฤติกรรมกลัวคน เป็นเพราะเคยเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีในวัยเด็ก | สร้างความไว้วางใจ ไม่บังคับน้อง |
เหน็บเสนียด | แมวพิการ ที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม | พาไปตรวจร่างกาย และดูแลอย่างถูกวิธี |
ต้องบอกเลยว่าลักษณะให้โทษนี้ ในปัจจุบันไม่ใช่สิ่งไม่ดีแต่เป็นสัญญาณเตือน ว่าแมวตัวนั้นต้องการการดูแลเรื่องสุขภาพทั้งกายและใจเป็นพิเศษหากผู้เลี้ยงเข้าใจและดูแลถูกจุด พวกน้องแมวเหล่านี้ก็สามารถเป็นน้องเหมียวที่น่ารักไม่แพ้สายพันธุ์แมวอื่นๆ เลยนะ
สรุป
แมวไทยมงคลหากยึดตามสมุดข่อยโบราณจะมีทั้งหมด 17 สายพันธุ์ แต่ถ้านับรวมสมุดข่อยของวัดอรุณที่บันทึกในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น จะนับรวมแมวขาวมณี กลายเป็น 18 สายพันธุ์ ซึ่งแมวไทยมงคลเหล่านี้มีทั้งนิยมเลี้ยง หายาก และสูญพันธุ์ไปแล้ว หลักๆ แล้วแมวไทยมงคลจะมีสีขนไม่สีดำล้วนก็ขาวล้วน โดยแยกสรุปได้ ดังนี้
กลุ่มแมวไทยมงคลสีดำหรือสีเข้ม
หลายๆ คนมักจำสับสนว่าแมวสีดำตัวนี้เป็นแมวพันธุ์อะไรกันแน่ ในกลุ่มแมวไทยมงคลที่ปรากฏในสมุดข่อยโบราณ มีหลายพันธุ์ที่มีขนสีดำ มาดูความแตกต่างของแต่ละชนิดกัน
ชื่อสายพันธุ์ | ลักษณะเด่น | ความเชื่อ | สถานะปัจจุบัน |
|---|---|---|---|
โกนจา | ขนสีดำทั้งตัว ตาสีเหลืองอมเขียว | เสริมโชคลาภ | หาเลี้ยงง่าย |
สีสวาด | ขนสีเทาอมเขียว | เสริมโชคลาภ | หายาก |
ศุภลักษณ์ | ขนสีทองแดง | ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน | หายาก |
วิลาศ | ขนสีดำ ยกเว้นใบหู ปากล่างถึงช่วงอก และท้ายทอยบนหลังเป็นสีขาว | เสริมโชคลาภ | หายาก |
ปัดเสวตร | ขนสีดำ ยกเว้นปลายจมูกถึงปลายหางเป็นสีขาว | มีความมั่งคั่ง | หายาก |
แซมเสวตร | ขนสีดำแซมขาว | เป็นที่รัก | หายาก |
นิลรัตน์ | สีดำทั้งหมด รวมถึงกระดูก ลิ้น ฟัน | ปราศจากอันตราย | สูญพันธุ์ |
นิลจักร | ขนสีดำ ยกเว้นรอบคอเป็นสีขาว | ร่ำรวย | สูญพันธุ์ |
กระจอก | ขนสีดำ ยกเว้นรอบปากมีสีขาว | ร่ำรวย | สูญพันธุ์ |
มุลิลา | ขนสีดำ ยกเว้นบริเวณหูเป็นสีขาว | มีสติปัญญาเป็นเลิศ | สูญพันธุ์ |
สิงหเสพย์ | ขนสีดำ ยกเว้นปาก จมูก รอบคอเป็นสีขาว | เป็นเจ้าคนนายคน | สูญพันธุ์ |
การเวก | ขนสีดำ ยกเว้นปลายจมูกเป็นสีขาว | เสริมโชคลาภ | สูญพันธุ์ |
จตุบท | ขนสีดำ ยกเว้นปลายเท้าทั้งสี่เป็นสีขาว | โชคดี | สูญพันธุ์ |
กลุ่มแมวไทยมงคลสีขาวหรือสีอ่อน
นอกจากแมวไทยมงคลสีดำที่มีเยอะแล้ว อีกสีที่ควบคู่กันมาก็คือขนสีขาว ซึ่งมีสายพันธุ์ที่จดไว้ในสมุดข่อย ดังนี้
ชื่อสายพันธุ์ | ลักษณะเด่น | ความเชื่อ | สถานะปัจจุบัน |
|---|---|---|---|
วิเชียรมาศ | ขนสีขาวนวล มีจุดแต้ม 9 จุด | ความเจริญรุ่งเรือง | หาเลี้ยงง่าย |
ขาวมณี | ขนสีขาวล้วน ตาสีฟ้า | โชคลาภ | หาเลี้ยงง่าย |
เก้าแต้ม | ขนสีขาว มีจุดดำแต้ม 9 จุด | ร่ำรวย | หายาก |
รัตนกำพล | ขนสีขาว ยกเว้นช่วงอกมีสีดำคาด | อำนาจบารมี | หายาก |
กรอบแว่น | ขนสีขาว ยกเว้นรอบดวงตากับหลังมีสีดำ | อำนาจบารมี | หายาก |
จากบทความนี้เพื่อนๆ น่าจะรู้จักแมวไทยกันไปครบแล้ว ซึ่งใครที่อยากเป็นทาสแมว กำลังมองหาแมวไทยที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน มาหาซื้อน้องแมวกันได้ที่ ENNXO ตลาดแมวออนไลน์ หรือจะประกาศลงหาบ้าน หาเจ้าของใจดี ก็ทำได้ฟรีเช่นกัน นอกจากนี้ใครที่เป็นทาสแมวอยากรู้ว่าแมวมีสายพันธุ์อะไรบ้าง เช็คสายพันธุ์แมวได้ที่ ENNXO BLOG
แชร์ไปยัง :
