ในวงการพระเครื่อง ไม่ว่าใครก็ต้องต่างรู้จักพระเครื่องเบญจภาคี ที่จัดว่าเป็นสุดยอดพระเครื่องของเมืองไทย หากผู้ใดบูชาพระเครื่องเบญจภาคี เชื่อว่าผู้นั้นจะเต็มเปี่ยมไปด้วยวาสนา บารมี จึงกลายเป็นความนิยมและความปรารถนาที่เหล่านักเล่นพระต่างต้องการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต วันนี้ทางเราจะมาอธิบายว่าพระเครื่องเบญจภาคีคืออะไร และมีที่มาอย่างไร ให้ผู้ที่ศรัทธาเข้าใจพระเครื่องเบญจภาคีกันมากขึ้น
ที่มาของพระเครื่องเบญจภาคี
พระเครื่องเบญจภาคีกำเนิดขึ้นในพ.ศ. 2495 เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมบูชาพระ นำพระเครื่องมาห้อยคอ โดย “พันเอก(พิเศษ) ประจน กิตติประวัติ” หรือท่านอาจารย์ “ตรียัมปวาย” อดีตนายทหารประจำกองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้คิดค้นพระเครื่องเบญจภาคีขึ้นมา แต่เริ่มแรกยังคงเป็นเพียง “ไตรภาคี” มีเพียง 3 องค์เท่านั้น ประกอบด้วย พระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม (เป็นองค์ประธาน), พระนางพญา จังหวัดพิษณุโลก (ตำแหน่งด้านขวา), พระรอด จังหวัดลำพูน (ตำแหน่งด้านซ้าย)
ต่อมาพบว่าขนาดพระของพระนางพญากับพระรอดมีขนาดไม่เท่ากัน จึงหาเพิ่มอีกสององค์ให้เต็มสร้อยคอ โดยต้องมีขนาด ความสมดุลเข้ากับไตรภาคีที่มีอยู่ รวมถึงมีความหมายเป็นมงคลตามความนิยมของคนในยุคนั้น จึงได้ผนวกพระกำแพงซุ้มกอ จังหวัดกำแพงเพชร และพระผงสุวรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี กลายเป็น ‘พระเครื่องเบญจภาคี’ นั่นเอง ผู้คนจึงนิยมบูชาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และมูลค่าของพระเครื่องเบญจภาคีในปัจจุบันนั้นมีราคาสูงมาก ไปจนถึงหลักล้านเลยทีเดียว
พระเครื่องเบญจภาคี ประกอบด้วย
1.พระสมเด็จวัดระฆัง หรือจักรพรรดิแห่งพระเครื่อง สร้างโดยพระคุณสมเด็จพุทธจารย์โตพรหมรังสี วัดระฆังโฆสิตาราม พระเถรวาทผู้ใหญ่และเป็นเกจิอาจารย์ที่คนไทยเคารพศรัทธามาก โดยองค์พระสมเด็จวัดระฆังมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีกรอบโค้งอยู่ด้านใน และมีเค้าโครงรูปพระพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่บนพุทธบัลลังก์ที่ซ้อนกันหลายชั้น มีพุทธคุณครอบจักรวาล เน้นเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย ชีวิตรุ่งเรือง และโชคลาภ
2.พระรอด จังหวัดลำพูน ในตำนานเล่าว่าพระรอด ถูกสร้างในสมัยทวารวดีเมื่อพันปีมาแล้ว ในสมัยที่พระนางจามเทวี ปกครองเมืองหริภุญชัย พระนางทรงสถาปนาวัดมหาวันขึ้นมา และสร้างเจดีย์พร้อมกับบรรจุพระรอดเข้าไป โดยพระสุมณานารทะฤาษีเป็นผู้สร้าง ซึ่งมีการขุดพบเจอเป็นครั้งแรกในปี 2435 จากการปฏิสังขรณ์เจดีย์ใหญ่และวัด มีการพบพระรอดอีกหลายองค์อีกด้วย ผู้ที่บูชาพระรอดจะได้รับพุทธคุณในเรื่องอยู่รอดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน และอุดมไปด้วยโภคทรัพย์
3.พระกำแพงซุ้มกอ สร้างจากเนื้อดินผสมว่าน มีกรอบทรงของพระพิมพ์เหมือนซุ้มรูปตัวอักษร ก ด้านในซุ้มมีพระพุทธเจ้าประทับนั่งสมาธิบนบัว เป็นหนึ่งในพระกรุชุดทุ่งเศรษฐี ที่พบในกรุสถูปเจดีย์เมืองกำแพงเพชร เล่ากันว่าสมเด็จโตได้เดินทางไปพบพระเจดีย์ริมฝั่งแม่น้ำปิง บริเวณนครชุมเก่า ของกำแพงเพชร พบว่าเจดีย์ชำรุด จึงบอกให้เจ้าเมืองมาบูรณะ จึงได้พบพระซุ้มกอเป็นจำนวนมาก จึงได้สันนิษฐานกันว่าตัวพระถูกสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย เนื่องจากสมัยนั้นเมืองกำแพงเพชรเป็นเมืองสำคัญของรัฐสุโขทัย พุทธคุณของพระกำแพงซุ้มกอคือ ด้านทางโภคทรัพย์ ผู้บูชาจะมีวาสนา มีความมั่งคั่งร่ำรวย
4.พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ มีเรื่องเล่าว่าคนจีนได้ลักลอบเข้าไปในพระปรางค์แล้วขโมยวัตถุมีค่าไป รวมถึงพระเครื่อง พระบูชา ต่อมาก็ได้มีคนเข้าไปขโมยอีก จนเจ้าเมืองสุพรรณบุรีได้ให้คณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบ แล้วพบพระผงสุวรรณ และอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ โดยพระผงสุวรรณนี้มีพุทธคุณในเรื่องเมตตามหานิยม มีเสน่ห์ ขจัดเรื่องทุกข์ออกไป
5.พระนางพญา ถูกพบในคราวปฏิสังขรณ์วัดนางพญา เชื่อกันว่าพระนางพญาถูกสร้างขึ้นโดยพระวิสุทธิกษัตรี มเหสีของสมเด็จพระมหาธรรมราชา กษัตริย์ในสมัยอยุธยา โดยในปี 2444 รัชกาลที่ 5 จะเสด็จประพาสเมืองพิษณุโลก เพื่อทอดพระเนตรการหล่อพระพุทธชินราช จึงมีการปะรำพิธีรับเสด็จที่วัดนางพญา ซึ่งขณะนั้นคนงานได้ขุดหลุมแล้วพบพระเครื่องเป็นจำนวนมาก จึงเรียกกันว่า “พระนางพญา” นอกจากนี้ยังพบพระนางพญาที่วัดราชบูรณะและตามกรุต่างๆ เนื่องจากในอดีตวัดนางพญากับวัดราชบูรณะเปรียบเป็นวัดพี่วัดน้อง ที่ใช้อุโบสถร่วมกันก่อนที่จะมีการตัดถนนพิษณุโลก-หล่มสัก การตัดถนนนี้ทำให้วัดทั้งสองอยู่คนละฝั่งของถนนอย่างเห็นได้ในปัจจุบันนั่นเอง กลับมาที่พระนางพญา ในเรื่องพุทธคุณเชื่อว่าให้เรื่องความมีเมตตามหานิยม มีบุญบารมี อยู่คงคงกระพัน
สำหรับผู้ที่สนใจอยากบูชาพระเครื่องเบญจภาคี สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ ENNXO.COM ตลาดซื้อ-ขายพระเครื่องออนไลน์ มีพระเครื่อง เครื่องรางของขลังมากมายให้ท่านได้เช่าบูชา หรืออยากลงขายพระเครื่องเพื่อส่งต่อความศรัทธาให้ผู้อื่นก็ทำได้เช่นกัน แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ครบครันในทุกเรื่อง ยินดีต้อนรับเหล่านักเล่นพระทุกท่านไม่ว่าจะหน้าเก่า หรือหน้าใหม่ ขอเชิญเข้ามาซื้อขายพระเครื่องบนพื้นที่ออนไลน์ดีๆ แห่งนี้
