หากใครเป็นสายดูภาพยนตร์ไทย อาจจะเคยเห็นเรื่องหุ่นพยนต์ แล้วเกิดอาการสงสัยว่าคำว่า ‘หุ่นพยนต์’ คืออะไร แต่วันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงหนัง แต่จะมาพูดถึงเครื่องรางของขลังที่จัดว่าเป็นหุ่นพยนต์ และถูกยกให้เป็นตำนานของความศักดิ์สิทธิ์นั่นก็คือ “ตัวพ.พาน” ของหลวงปู่เย็น ก่อนที่เราจะพาทุกคนไปรู้จักพ.พานนั้น มาพูดถึงเรื่องหุ่นพยนต์กันก่อนดีกว่า
“หุ่นพยนต์” คือ เครื่องรางที่สร้างจากผู้ทรงวิทยาคม โดยนำวัสดุต่างๆ อย่างเช่น ฟาง หญ้า หวาย ไม้ ดิน โลหะ ฯลฯ นำมาผสมมวลสารต่างๆ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ตามแต่ผู้สร้างจัดเตรียมไว้ เมื่อได้วัสดุแล้วก็นำมาขึ้นเป็นรูปเหมือนสิ่งมีชีวิต พร้อมกับปลุกเสกให้ภายในหุ่นมีชีวิตจิตใจ หรือปลุกเสกให้มีพุทธคุณด้านต่างๆ หรือก็คือการนำวัสดุทางธรรมชาติที่หาได้ง่าย มาปลุกเสกเพื่อใช้งานในด้านปกป้องคุ้มครอง และให้พุทธคุณด้านต่างๆ แก่เจ้าของนั่นเอง
แล้วความเชื่อเรื่องหุ่นพยนต์มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่? จากหลักฐานที่ปรากฏการพูดถึงเครื่องรางที่ถูกสร้างขึ้นดังที่เราได้กล่าวไปด้านบน พอสันนิษฐานได้ว่าอย่างน้อยก็มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เพราะมีการพูดถึงอยู่ในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ยกตัวอย่างเช่น ตอนขุนช้างตามนางวันทอง ที่ว่า
“ถอนหญ้ามามัดเป็นหุ่นพลัน ถ้วนพันวางเรียงเคียงกันไป แล้วเสกบริกรรมสำทับ เกิดเป็นไฟวับวับดังจะไหม้ เอานํ้ามนตร์ประหุ่นลงทันใด ไฟดับหุ่นหายกลายเป็นคน มีอาวุธครบมือถือประจำ แต่งตัวกำยำอย่างพหล ต่างเคารพนบนอบยอบตน ขุนแผนสั่งหุ่นพลไปทันที”
เป็นเหตุการณ์ที่ขุนช้างไปฟ้องพระพันวษา ว่าขุนแผนซ่อนกองพลไว้เป็นอันตราย พระพันวษาจึงส่งทหารประมาณ 5,000 คนให้ไปจับกุมขุนแผน ขุนแผนจึงได้สร้างหุ่นพยนต์ขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับทหารเหล่านั้น หลายๆ คนพอนึกภาพหุ่นพยนต์กันออกแล้ว ทีนี้เรามาพูดถึงที่มาของตัวพ.พาน และความหมายของเครื่องรางชนิดนี้กัน
“หลวงปู่เย็น ทานรโต” ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมกับ "หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์" และ "หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา" แต่การสร้างตัวพ.พานนี้ มีเรื่องเล่าว่าท่านได้รับการสอนมาจากหลวงปู่เทพโลกอุดร ครั้นตอนที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม ได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นเมื่อท่านได้พบพระธุดงค์ลึกลับรูปหนึ่ง โดยพระธุดงค์รูปนั้นได้มอบเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ให้ นั่นก็คือตัวพ.พาน พร้อมกับสอนวิธีการทำ ด้วยการนำธูปที่อยู่หน้าหิ้งพระมาหัก ต่อจากนั้นนำสายสิญจน์มาพันรอบๆ พร้อมกับบอกว่านี่คือแก้วสารพัดนึก เมื่อสอนเสร็จแล้ว อยู่ๆ พระธุดงค์รูปนั้นก็หายไป หลวงปู่เย็นมาทราบในภายหลังว่าคือ หลวงปู่เทพโลกอุดร
ตั้งแต่ที่หลวงปู่เย็นจำพรรษาที่วัดกลางชูศรี ท่านก็ได้สร้างตัวพ.พาน แจกจ่ายให้กับเหล่าลูกศิษย์ จึงเกิดเรื่องเล่าอิทธิปาฏิหาริย์มากมายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พอถึงครั้นที่ท่านได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์การเปรียญ ขณะนั้นวัดมีสถานะเป็นวัดร้าง ท่านได้บูรณะวัดและก่อตั้งวัดการเปรียญขึ้นมา ก่อนที่จะมาเปลี่ยนชื่อในภายหลังว่า “วัดสระเปรียญ” ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชัยนาท
“ตัวพ.พาน” ของหลวงปู่เย็น จัดอยู่ในหุ่นพยนต์ชนิดหนึ่งในสายบน ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่หุ่นพยนต์ทั่วๆ ไป เนื่องจากไม่ได้สร้างให้มีลักษณะเป็นรูปเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่สร้างเป็นตัวพ.พาน ตามตัวพยัญชนะไทย โดยใช้วัสดุจากก้านธูปที่ใช้แล้วมาหักทำเป็นตัว พ ต่อด้วยนำสายสิญจน์มาพันรอบๆ แล้วทำการปลุกเสกนั่นเอง นอกจากพ.พานแล้ว หลวงปู่เย็นยังได้หล่อแหวนพ.พาน และเหรียญพ.พานอีกด้วย ซึ่งความหมายของตัวพ.พานนี้เป็นตัวแทนของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ปรากฏบนกระดานภายในวัดสระเปรียญ และปรากฏในคาถาบูชาว่า
อิสวาสุ ตามด้วย “ยังกิญจิ ระตะนังโลเก วิชชะติวิวิธัง ปุถุระตนัง พุทธสะมัง นัตถิ ตัสสมา โสตถี ภวันตุเม”
อิสวาสุเป็นคาถาหัวใจพระรัตนตรัย และในคาถาบูชานี้ก็มีความหมายถึงพระพุทธเจ้า เปรียบเป็นพ่อที่ใหญ่ที่สุดของทุกๆ คน นอกจากนี้ยังมีความหมายอื่นๆ อีกด้วยเช่นกัน ทั้งพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) พ่อแม่ ความพอเพียง ความพอดี และพระพรหม เป็นต้น
พุทธคุณของพ.พาน ว่ากันว่าเป็นเหมือนแก้วสารพัดนึก ที่หากปรารถนาอะไรก็จะได้สมดังปรารถนา ไม่ว่าจะเรื่องการค้าขาย เมตตามหานิยม การเรียน ความรัก และจะส่งสัญญาณเตือนเวลาเกิดภัย อย่างไรก็ตามพุทธคุณการบูชาจะเกิดผลก็ต่อเมื่อผู้บูชาปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม และมีความศรัทธาต่อหลวงปู่เย็น
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากเช่าบูชาตัวพ.พาน แหวนหรือเหรียญตัวพ.พาน ของหลวงปู่เย็น หรือหากท่านมีของดีอยู่กับตัว ต้องการส่งความศรัทธาต่อ อย่ารอช้า! มาซื้อขายพระเครื่องได้ที่ ENNXO ตลาดพระเครื่องออนไลน์ ในรูปแบบแพลตฟอร์มที่เน้นการใช้งานง่าย จะลงประกาศขายก็สะดวก จะเลือกเช่าแล้วติดต่อคุยกับผู้ขายก็ทำได้ง่าย มีความเป็นส่วนตัว ต้องที่นี่เท่านั้น ศูนย์รวมของคนรักพระในมิติใหม่ที่คุณไม่ควรพลาด
