ทำไมปารีสจึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความรักที่สุดแสนโรแมนติก? เมื่อไหร่ที่คุณได้ดูหนัง ฟังเพลง หรือส่องตามสื่อโซเชียลมีเดีย ทันทีที่แบ็คกราวด์เป็นปารีสแล้วล่ะก็ คุณจะสัมผัสได้ถึงความโรแมนติกอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเพลง Paris in the Rain - Lauv, ภาพยนตร์ Before Sunset หรือซีรีส์ Emily in Paris ก็หนีไม้พ้นเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในเมืองปารีส วันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ปารีสกลายเป็นสถานที่ที่อบอวลไปด้วยความรัก
เริ่มต้นจากปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ที่มาของชื่อ “ปารีส” มาจากชื่อชนเผ่าโกล ที่ย้ายถิ่นฐานมาตั้งอยู่ในปารีสตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยเรียกคนกลุ่มนี้ว่าชาว “ปาริซี (Parisii)” ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ “ปารีส” ในช่วงค.ศ. 361 - พ.ศ. 363 นอกจากนี้ชื่อของปารีสยังถูกขนานนามว่าเป็น “นครแห่งแสงไฟ” เพราะปารีสนับว่าเป็นเมืองที่มีแสงไฟบนถนนแห่งแรกๆ ในทวีปยุโรปเลยก็ว่าได้
ปัจจัยที่ทำให้ปารีสกลายเป็นเมือง “โรแมนติก”
1.ผังเมือง
ปัจจัยแรกที่สำคัญมากคือเรื่อง “ผังเมือง” เพราะเมื่อไหร่ที่ผังเมืองดีจะส่งผลให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย โดยผังเมืองในปารีสมีลักษณะเป็นใยแมงมุมทำให้ทุกอย่างเชื่อมต่อกันหมด และความเจริญกระจายไม่กระจุกอยู่แค่หย่อมๆ หนึ่ง ทำให้จำนวนประชากรและความหนาแน่นไม่เยอะเกินไป อีกทั้งความเร่งรีบในชีวิตประจำวันจะลดน้อยลง
นอกจากนี้ปารีสยังมีพื้นที่สาธารณะ ตึกรามบ้านช่อง และต้นไม้ที่ถูกจัดวางอยู่รวมกันอย่างโรแมนติก คือการจัดวางอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ห่างกันเกินไป มีฟุตบาทที่ซัพพอร์ตการใช้งานของผู้คนและสามารถเดินเพื่อไปยังจุดหมายต่างๆ ได้ ซึ่งเอื้อให้เราสามารถสานสัมพันธ์กับผู้คนได้เสมอ ไม่ใช่แค่เฉพาะความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวเท่านั้น แต่ยังง่ายต่อการสร้างมิตรภาพใหม่ๆ อีกด้วย อย่าลืมว่าหนึ่งในวิธีการสานสัมพันธ์กับผู้คนคือการเดินคุยกัน เพราะมันจะทำให้คนเราได้เรียนรู้กันมากขึ้น อย่างในหนังหลายๆ เรื่องที่ตัวละครอย่างพระเอก-นางเอก มักจะมีฉากที่แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาขึ้นผ่านการเดิน เช่น การเดินรอบเมืองใน Before Sunset หรือ เดินชมปารีสยามค่ำคืนจากเรื่อง Midnight in Paris เป็นต้น
2.สถาปัตยกรรม
ในด้านงานสถาปัตยกรรมของปารีสก็ถูกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยงามไม่เหมือนใครจริงๆ เพราะไม่ใช่แค่หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือสถาปัตยกรรมตามจุดแลนด์มาร์คต่างๆ ที่สวยงามเท่านั้น แต่ปารีสสวยทุกมุมจริงๆ ไม่ว่าคุณจะเดินไปทางไหนคุณจะเจอตึกที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าความสวยงาม และยังมีตึกอาคารที่ผสมความเก่าแก่และเทคโนโลยีความล้ำสมัยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
เพียงแค่คุณได้เดินดูงานสถาปัตยกรรมในเมืองปารีส ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้วันนั้นเป็นอีกหนึ่งวันที่ดีของคุณ
3.ศิลปะวัฒนธรรม
สุดท้ายหากพูดถึงปารีส ก็ต้องยกให้เป็นเมืองหลวงแห่งศิลปะ เมื่อไหร่ที่จิตใจผู้คนเต็มไปด้วยศิลปะ จะส่งผลให้ความรัก ความโรแมนติกเกิดในจิตใจ ผู้คนจะเริ่มหันเข้าสู่ธรรมชาติและเข้าใจจิตใจมนุษย์มากยิ่งขึ้น
เพียงแค่ 3 ข้อที่เรายกมานั้นก็เห็นได้แล้วว่า “ปารีสโรแมนติกจริงๆ” ถึงแม้หลายครั้งเราจะเห็นข่าวนักท่องเที่ยวโดนปล้น โดยขโมยของในปารีส ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งที่ควรระมัดระวัง แต่ในอีกแง่มุมก็ต้องยกให้ปารีสเป็นเมืองที่น่าหลงใหลและโรแมนติกในอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้