สเปคและราคา Nissan March แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร

สารบัญ
Nissan March (นิสสัน มาร์ช) รถยนต์ Eco Car คันเล็กขนาด 5 ที่นั่งเป็นอีกหนึ่งคันในตำนานของรถนิสสัน ที่มีประวัติการขายมาอย่างยาวนาน โดย Nissan March มีทั้งหมด 6 เจเนอเรชัน โดยที่เจเนอเรชันแรกเปิดตัวตั้งแต่ปี 1982 ก่อนที่ Nissan March จะเลิกผลิตในปี 2022 ต่อให้ในปัจจุบันจะไม่มีการวางขายมือหนึ่งแล้วนั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันยังมีการซื้อขายรถ Nissan March กันอย่างต่อเนื่อง โดยรถ Nissan March รุ่นล่าสุดนั้นมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย และมีราคามือสองเริ่มต้นที่หลักแสนบาท โดยปัจจัยที่ทำให้ราคาต่างกันเพราะแต่ละรุ่นย่อยก็จะมีรายละเอียดออปชันที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ ENNXO เลยจะพาทุกคนไปสำรวจกันว่าสเปคทั้งหมดของ Nissan March ดีไหม น่าใช้ยังไง ไปติดตามพร้อมกันได้เลย

Nissan March มีทั้งหมดกี่รุ่น ราคาล่าสุดเท่าไหร่
รถยนต์ Nissan March รุ่นใหม่ล่าสุดที่ขายในไทยนั้น เป็นรถเจเนอเรชันที่ 5 (เจเนอเรชันที่ 6 ยังไม่มีวางขายในไทย) ซึ่งได้เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2016 และได้มีการพัฒนาอัปเดต Minor Change มาตลอดโดยรุ่นล่าสุดคือปี 2022 ที่ได้มีการปรับสีตัวถัง และเพิ่มหน้าจอสัมผัสเข้าไปในรุ่นท็อป และปัจจุบันที่นิยมซื้อขายมือสองกันนั้นอัปเดตล่าสุด ราคารถนิสสัน มาร์ช มือสองแต่ละรุ่นมีดังนี้
- Nissan March รุ่น 1.2 S MT ราคาประมาณ 120,000-200,000 บาท
- Nissan March รุ่น 1.2 E MT ราคาประมาณ 140,000-230,000 บาท
- Nissan March รุ่น 1.2 E CVT ราคาประมาณ 140,000-300,000 บาท
- Nissan March รุ่น 1.2 EL CVT ราคาประมาณ 140,000-220,000 บาท
ใครสนใจอยากซื้อรถ Nissan March มือสอง สามารถเข้ามาดำเนินการซื้อขายรถนิสสัน มาร์ช มือสอง รถ Nissan March มือสอง เจ้าของขายเองที่ ENNXO

สเปค Nissan March
Nissan March ดีไหม? หากได้อ่านรีวิวหรือฟังจากกลุ่มคนที่เคยใช้งานจริง ส่วนมากแล้วคำตอบจะออกมาเป็นเสียงเดียวกัน คือ Nissan March ดี เป็นอีโคคาร์ที่โดดเด่นมากที่สุดคือเรื่อง “ประหยัดน้ำมัน” เหมาะกับการใช้งานในเมือง แถมยังมีขนาดกะทัดรัดใช้เดินทางสะดวก ซึ่งหากคุณกำลังมองหารถใช้งานตามรีวิว และต้องการศึกษารายละเอียดสเปครถ Nissan March ทั้งในด้านเครื่องยนต์ มิติรถ รวมไปถึงระบบต่างๆ ENNXO ได้สรุปมาให้แล้ว ดังนี้
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ | รุ่น 1.2 S MT | รุ่น 1.2 E MT | รุ่น 1.2 E CVT | รุ่น 1.2 EL CVT |
---|---|---|---|---|
ระบบเครื่องยนต์ | 3 สูบ แถวเรียง DOHC | |||
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) | 1,198 | |||
แรงม้า (กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) | 58/6,000 | |||
แรงบิด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) | 106/4,400 | |||
น้ำมันเชื้อเพลิง | เบนซิน 91, 95 / แก๊สโซฮอล์ E20 |
ในส่วนของเครื่องยนต์รถ Nissan March จะเห็นได้ว่าทั้ง 4 รุ่นนั้นมีรายละเอียดเหมือนกัน ซึ่งจากตารางจะเห็นว่านิสสันมาร์ชทั้ง 4 รุ่นใช้ระบบเครื่องยนต์ 3 สูบ ซึ่งข้อได้เปรียบคือปริมาตรกระบอกสูบเล็ก ทำให้กินน้ำมันน้อย และยังเติมน้ำมัน E20 ได้อีกเรียกว่ายิ่งประหยัดมากกว่าเดิม แต่ข้อเสียก็มีในเรื่องของแรงม้า และแรงบิดที่ไม่สูง ทำให้เวลาขับรถถึงช่วงที่เร่งความเร็วอาจทำได้ยากกว่ารุ่นอื่นๆ
มิติรถ
คุณสมบัติ | รุ่น 1.2 S MT | รุ่น 1.2 E MT | รุ่น 1.2 E CVT | รุ่น 1.2 EL CVT |
---|---|---|---|---|
ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 3,780x1,665x1,515 | |||
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,450 | |||
ระยะห่างล้อคู่หน้า (มม.) | 1,470 | |||
ระยะห่างล้อคู่หลัง (มม.) | 1,475 | |||
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) | 141 | |||
รัศมีวงเลี้ยว (ม.) | 43.5 | |||
น้ำหนักรถ (กก.) | 867 | 922 | 957 | 964 |
สำหรับด้านมิติรถนั้น หมายถึง ขนาดภายในและภายนอกของ Nissan March โดยจากตารางสังเกตได้ว่ามิติรถของทั้ง 4 รุ่นเหมือนกันหมดเลยมีต่างกันเพียงแค่น้ำหนักรถ ซึ่งแน่นอนว่ารถตัวท็อปอย่างรุ่น 1.2 EL CVT นั้นจะมีน้ำหนักมากที่สุด นั่นก็เพราะมีออปชันเสริมอื่นๆ มากที่สุดนั่นเอง และรถที่มีน้ำหนักน้อยที่สุดต่อให้ไม่มีออปชันเสริมเยอะแต่เพราะแบบนี้ รุ่น 1.2 S MT ก็ถือว่าเป็นรุ่นประหยัดน้ำมันที่สุด
ระบบส่งกำลัง ระบบช่วงล่าง
คุณสมบัติ | รุ่น 1.2 S MT | รุ่น 1.2 E MT | รุ่น 1.2 E CVT | รุ่น 1.2 EL CVT |
---|---|---|---|---|
ระบบเกียร์ | 5 MT | XTRONIC CVT | ||
อัตราทดเกียร์ | เกียร์ธรรมดา เกียร์ 1 : 3.727 | เกียร์อัตโนมัติ 4.006 - 0.550 | ||
เกียร์ธรรมดา เกียร์ 2 : 2.048 | ||||
เกียร์ธรรมดา เกียร์ 3 : 1.393 | ||||
เกียร์ธรรมดา เกียร์ 4 : 1.029 | ||||
เกียร์ธรรมดา เกียร์ 5 : 0.821 | ||||
ระบบเบรกหน้า | ดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อน | |||
ระบบเบรกหลัง | ดรัมเบรก | |||
ระบบพวงมาลัย | แร็คแอนด์พีเนียน มาพร้อมระบบพาวเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) |
จากตารางจะเห็นได้ว่ารถ Nissan March มีให้เลือกทั้งระบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ โดยระบบเกียร์ธรรมดาจะมีราคาถูกกว่า ส่วนระบบเบรก และระบบพวงมาลัยใช้ระบบเดียวกันทั้ง 4 รุ่น เพราะฉะนั้นแล้วระบบเกียร์จะมีผลในการตัดสินใจเลือกรุ่นรถมาก โดยระบบเกียร์ธรรมดา ข้อดีอยู่ที่อัตราเร่งดี เหมาะกับคนชอบขับเอง คุมแรงบิดและเปลี่ยนเกียร์ได้เอง ส่วนระบบอัตโนมัติไม่ต้องเหยียบคลัตช์จะขับสบายกว่าจึงเหมาะกับการขับในเมือง

การดีไซน์ Nissan March
มาดูกันต่อในด้านการดีไซน์ของรถ Nissan March กันบ้างว่ารถเจเนอเรชันที่ 5 นี้จะมีการดีไซน์อย่างไร มีจุดไหนที่น่าสนใจบ้าง
ดีไซน์ภายนอก
- ล้ออัลลอย ดีไซน์สวยและทันสมัย แถมยังมีข้อดีคือ น้ำหนักเบากว่าล้อเหล็ก ช่วยให้รถขับนุ่มขึ้นและช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย
- ไฟหน้าส่องสว่างกลางวัน ช่วยเสริมภาพลักษณ์การดีไซน์ให้ดูทันสมัยขึ้น และยังช่วยเพิ่มแสงสว่างและการมองเห็นขณะขับรถในเวลากลางวัน
- ไฟท้าย LED มอบแสงสว่างที่ชัดเจน ช่วยให้การมองเห็นได้ง่ายตั้งแต่ระยะไกล แถมไฟ LED ยังใช้พลังงานน้อย และมีอายุการใช้งานนาน
- สปอยเลอร์หลัง ช่วยให้การไหลเวียนอากาศดีขึ้น และทำให้การดีไซน์ดูสปอร์ตมากขึ้นด้วย โดยจุดเด่นบริเวณสปอยเลอร์หลังของนิสสัน มาร์ชคือมีไฟเบรกอยู่ในสปอยเลอร์หลังด้วย
- กันชนท้าย นอกจากช่วยซับแรงกระแทกเวลาเกิดเหตุการชนท้ายแล้วนั้น ยังเสริมให้การดีไซน์มีความสปอร์ตมากขึ้นด้วย
- กระจังหน้า V-Motion ดีไซน์สุดเอกลักษณ์ของรถ Nissan March โดยบริเวณตรงกลางของกระจังหน้าสังเกตว่าจะลักษณะคล้ายตัว V ขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยเส้นโครเมียม ช่วยเสริมให้รถมีความสปอร์ตและหรูหรามากขึ้น

ดีไซน์ภายใน
ภายในห้องโดยสารของรถ Nissan March จะตกแต่งด้วยสีดำเป็นหลัก และประกอบไปด้วยออปชันหลายอย่างด้วยกัน ดังนี้
- พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมเสียง จะเพิ่มหรือลดเสียงก็สะดวก ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยแถมยังช่วยเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย
- มาตรวัดอัจฉริยะ แสดงข้อมูลทั้ง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน, ระยะทางที่วิ่งได้ และระยะทางรวม
- เบาะที่นั่งบุผ้า วัสดุได้มาตรฐาน ระบายอากาศได้ดีและยังรองรับสรีระช่วยลดอาการปวดเมื่อยขณะขับขี่
- ที่วางของหลายจุด จะวางแก้วน้ำ หรือขวดน้ำก็สะดวก เพราะสามารถวางได้ทั้งบริเวณช่องเก็บข้างประตู, บริเวณที่วางแก้ว และที่เก็บของหน้าคอนโซลรถ
- คอนโซลกลางใช้วัสดุพรีเมียม ผิวสัมผัสดีช่วยให้ภายในดูเรียบหรูและทันสมัย
- พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ เบาะหลังพับเก็บได้แบบ 60:40 สามารถบรรทุกของชิ้นใหญ่ได้

สีตัวถังและภายใน Nissan March
สำหรับสีรถทั้งหมดของ Nissan March มีมากกว่า 7 เฉดสีด้วยกัน ภายในห้องโดยสารของทั้ง 4 รุ่น คือ สีดำ ส่วนรายละเอียดทั้ง 7 สีมีดังนี้
- สีม่วง (Plum), สีฟ้า (Capri Blue), สีชมพู (Sweet Pink), สีแดง (Radiant Red), สีขาว (White Pearl), สีเงิน (Brilliant Silver) และ สีดำ (Black Star)
*เฉพาะรุ่น 1.2 S MT (รุ่นเริ่มต้น) มีเพียง 3 สี คือ สีเงิน (Brilliant Silver), สีดำ (Black Star) และ สีชมพู (Sweet Pink)

ระบบเทคโนโลยี Nissan March
เห็นรถ Nissan March เป็นรถราคาประหยัดคันจิ๋วหลายคนอาจจะไม่คาดหวังในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ มากนัก แต่อยากให้มั่นใจได้ว่าทางนิสสัน มาร์ชได้ดีไซน์และคัดสรรเทคโนโลยีดีๆ ที่ช่วยซัพพอร์ตการขับขี่มาอย่างดีที่สุด มีรายละเอียดดังนี้
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.5 เมตร จุดชูโรงของนิสสันมาร์ช เพราะการที่รัศมีวงเลี้ยวแคบน้อยจะยิ่งเลี้ยวง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในซอยแคบๆ หรือการกลับรถจะทำได้สะดวกมาก
- เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง มี 4 จุดด้วยกันช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างดี
- ถุงลม SRS คู่หน้า ช่วยปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
- ระบบเบรก ABS/EBD/BA โดยระบบ ABS ช่วยป้องกันอาการล้อล็อคเมื่อเกิดการเบรกกะทันหัน, ระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อ ช่วยเพิ่มความสมดุล และระบบ BA ช่วยเพิ่มแรงเบรกเมื่อผู้ขับขี่เกิดการเบรกกะทันหัน
- โครงสร้างตัวถัง V-Platform ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับรถคันเล็กโดยเฉพาะ มีทั้งความแข็งแรง และน้ำหนักเบา เพิ่มการขับขี่ให้ปลอดภัยมากขึ้น

เห็นราคาและสเปคของรถ Nissan March กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่านี่คือรถประหยัดน้ำมันที่น่าสนใจไม่น้อยในตลาดรถคันเล็ก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนิสสัน มาร์ชจะเลิกผลิตและขายมือหนึ่งในประเทศไทยแล้ว แต่จากการสำรวจตลาดมือสองนั้น พบว่า Nissan March มือสองยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากคุณคืออีกคนที่สนใจในรถคันนี้ สามารถเข้ามาเช็คราคา พร้อมเลือกรุ่นที่ถูกใจพร้อมซื้อรถ Nissan March มือสอง ราคาถูกได้ที่ ENNXO ตลาดรถมือสอง ที่เอ็นโซ่มีรถนิสสันมาร์ชทั้งจากเต้นท์รถ และรถนิสสัน มาร์ช เจ้าของขายเอง สามารถเข้าไปเลือกคันในสเปคได้แล้วตอนนี้ต้องที่เอ็นโซ่เลย
