รถปลูกข้าว คืออะไร
รถปลูกข้าว (Rice Planter) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “รถดำนา” เป็นเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ออกแบบมาเพื่อการปลูกข้าวลงบนแปลงนา ซึ่งเป็นเครื่องช่วยลดแรงงานคนจากวิถีดั้งเดิมที่ชาวนาต้องลงไปดำนาปลูกข้าวด้วยตัวเอง การมีรถปลูกข้าวประโยชน์ของมันช่วยทั้งเรื่องลดการใช้แรงงานคนแล้ว ยังลดเวลา ทำให้ระยะปลูกข้าวสม่ำเสมอขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีมากขึ้น
การปลูกข้าวนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือการปลูกข้าวแบบนาดำ เป็นการย้ายต้นกล้าที่เพาะเอาไว้ไปปักลงบนดิน และการปลูกแบบนาหว่านคือการนำเมล็ดพันธุ์หว่านลงบนแปลงนาโดยตรง ซึ่งเครื่องปลูกข้าวที่เข้ามาช่วยทุ่นแรงนั้นจึงต้องมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป เช่น รถปลูกข้าวนาดำหลักการทำงานของรถดำนาเบื้องต้นคือ การนำต้นกล้าข้าวที่อยู่ในถาดเพาะปักลงบนดินโดยเครื่องจะค่อยๆ ดึงต้นกล้าปักลงบนดินอัตโนมัติ แต่ถ้าเป็นเครื่องปลูกข้าวแบบนาหว่านก็จะมีหลายรูปแบบ โดยหลักการคือการกระจายเมล็ดข้าวให้ทั่วถึงโดยการใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ หรือมอเตอร์นั่นเอง
เลือกรถปลูกข้าวอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน
แล้วเราจะเลือกรถปลูกข้าวอย่างไร อย่างที่ทุกคนทราบกันว่ารถปลูกข้าวนั้นคือเครื่องมือทุ่นแรงที่ช่วยให้การปลูกข้าวง่ายขึ้น ซึ่งในกระบวนการปลูกข้าวนอกจากมีเครื่องมือแล้วต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งาน ทั้งในแง่ของปัจจัยพื้นที่และเวลา เพราะฉะนั้นเอ็นโซ่จึงมีวิธีเลือกรถปลูกข้าวให้เหมาะกับการใช้งาน ดังนี้
เครื่องปลูกข้าวตามรูปแบบการปลูก
- เครื่องปลูกข้าวนาดำ ตัวเครื่องจะเข้ามาทำหน้าที่ปักต้นกล้าลงบนแปลงนา ข้อดีทั้งช่วยลดแรงงาน และข้าวจะเติบโตเท่ากัน ผลผลิตสูงเหมาะกับการใช้งานบนสภาพดินที่มีน้ำและดินเหนียว โดยเครื่องปลูกข้าวนาดำแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
- เครื่องปลูกข้าวแบบเดินตาม เหมาะกับนาแปลงเล็ก พื้นที่เข้าถึงยาก น้ำหนักเบา และราคาประหยัด
- เครื่องปลูกข้าวแบบนั่งขับ เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่กว้าง เน้นความรวดเร็ว ระยะการปลูกแม่นยำแต่มีราคาสูง
- เครื่องปลูกข้าวนาหว่านจะใช้เมล็ดข้าวหว่านลงบนนาโดยตรง ข้อดีคือมีความรวดเร็ว ต้นทุนต่ำกว่า การใช้งานง่ายกว่าแต่ผลผลิตอาจไม่ได้เทียบเท่าแบบนาดำ โดยเครื่องปลูกข้าวนาหว่านแบ่งออกได้เป็น 2 แบบหลัก คือ
- เครื่องหยอดเมล็ด เป็นการปลูกข้าวแบบแถวสามารถควบคุมจำนวนเม็ดต่อหลุมได้ ระยะปลูกสม่ำเสมอกัน
- เครื่องหว่านเมล็ด ใช้แรงเหวี่ยงจากมอเตอร์ช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์ให้ทั่วพื้นที่ด้วยความรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาได้ดี
รถปลูกข้าวตามล้อและจำนวนแถว
สำหรับผู้ที่มีความต้องการใช้รถปลูกข้าวตามล้อซึ่งส่งผลโดยตรงกับสภาพพื้นดิน หรือตามจำนวนแถวที่ปลูกได้ในแต่ละครั้งก็สามารถเลือกรถปลูกข้าวตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลย
- รถปลูกข้าวล้อยาง เหมาะกับการทำนาแห้ง เพราะพื้นที่นาเป็นดินแข็งและเรียบ การเคลื่อนที่สะดวก
- รถปลูกข้าวล้อเหล็ก / รถสายพาน เหมาะกับนาปีหรือนาชลประทาน เพราะมีน้ำขังเป็นดินเหนียว ล้อเหล็กจะเคลื่อนที่ได้ดีมากกว่า
- รถปลูกข้าว 3 แถว เป็นรถขนาดเล็ก เหมาะกับเกษตรกรรายย่อย หรือบริเวณพื้นที่นาจำกัดเข้าถึงยาก
- รถปลูกข้าว 4 - 6 แถว รถขนาดกลางทั้งรถปลูกข้าว 4 แถว และรถปลูกข้าว 6 แถวเหมาะกับนาแปลงกลางไปถึงใหญ่ เป็นไซส์ขนาดพอดีควบคุมง่าย
- รถปลูกข้าว 8 - 10 แถว ช่วยประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี โดยรถปลูกข้าว 8 แถว และรถปลูกข้าว 10 แถวเหมาะกับแปลงนาขนาดใหญ่หรือการใช้งานในเชิงพาณิชย์

รถปลูกข้าว ราคามือสองเท่าไหร่
รถดำนามือสอง ราคาเท่าไหร่ ในการซื้อขายรถดำนามือสองนั้นราคามีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของรถนั้นๆ รุ่น ยี่ห้อ สภาพเครื่องยนต์ และจำนวนแถวด้วย โดยรายละเอียดราคามีทั้งหมดดังนี้
- รถดำนา 3 แถว มือสอง ราคา 5,000 - 15,000 บาทโดยประมาณ
- รถดำนา 4 แถว มือสอง ราคา 25,000 - 45,000 บาทโดยประมาณ
- รถดำนา 6 แถว มือสอง ราคา 55,000 - 70,000 บาทโดยประมาณ
- รถดำนา 8 แถว มือสอง ราคา 150,000 - 200,000 บาทโดยประมาณ
- เครื่องหยอดเมล็ด มือสอง ราคาหลักพันถึงหมื่นบาทโดยประมาณ
- เครื่องหว่านเมล็ด มือสอง ราคาหลักพันถึงหมื่นบาทโดยประมาณ
สิ่งที่ควรเช็คก่อนซื้อรถปลูกข้าว มือสอง
มาถึงขั้นตอนการเตรียมตัวซื้อรถปลูกข้าวกันบ้าง ในเมื่อทุกคนตัดสินใจเลือกได้ว่าจะซื้อรถดำนาแบบไหนดี ในขั้นตอนการเลือกซื้อรถดำนามือสองก็มีรายละเอียดที่ไม่อยากให้มองข้าม เพื่อให้ได้รถสภาพสมบูรณ์ที่สุดต้องเช็คลิสต์ตามนี้เลย
- สภาพเครื่องยนต์ ทดสอบว่าสตาร์ทติดหรือไม่ ไม่มีน้ำมันรั่ว หรือเสียงเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ
- ล้อ ลองเคลื่อนที่ดูว่าปกติไหม ล้อยางต้องไม่มีรอยรั่วหรือบวม ส่วนล้อเหล็กต้องไม่รอยแตก
- ระบบการปลูก ทดสอบดูว่ายังทำงานอัตโนมัติได้ไหม ลองใช้งานจริงเพื่อเช็คเรื่องระยะห่างและการปักต้องอยู่ในจุดที่พอดี
- แผงควบคุม ไม่ว่าจะเป็นระบบคันเร่ง, เบรก, สวิตช์ไฟ หรือสัญญาณเตือนต่างๆ ต้องทำงานปกติ
- อายุเครื่อง นอกจากดูสภาพตัวถังแล้วอายุเครื่องจะช่วยบอกถึงรายละเอียดและความเสี่ยงที่ต้องเจอ ในกรณีที่รถปลูกข้าวมีอายุมากแล้วอาจจะตามมาด้วยค่าบำรุงรักษาที่สูงขึ้น

นอกเหนือจากการเช็ครถปลูกข้าวก่อนตัดสินใจซื้อมือสองแล้วนั้น มีอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยให้การซื้อรถดำนามือสองง่ายและสะดวกมากขึ้น คือการเลือกใช้ ENNXO ตลาดซื้อขายรถปลูกข้าวมือสองเป็นแหล่งรวมรถสภาพดี แถมเจ้าของขายเอง ราคาไม่แพง ซึ่งใครที่กำลังมองหาต้องการซื้อรถดำนามือสองเพียงแค่เข้าไปเลือกและติดต่อเพื่อดำเนินการซื้อขายกับเจ้าของได้โดยตรง ส่วนผู้ที่ต้องการขายรถปลูกข้าว มือสอง ก็ลงขายที่ ENNXO ได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียม