รายละเอียดสินค้า
ก่อนที่จะมีการเปิดกรุพระสมเด็จอย่างเป็นทางการในปี พศ 2500 นั้น นากคำบอกเล่าของเจ้าอาวาสและพระลูกวัดบางขุนพรมชุดก่อน ปี 2500นั้น ได้เล่าให้ฟังว่า มีการลักลอบขุดเจดีและขโมยพระสมเด็จ ครั้งแรก เมื่อ พศ 2425 จนถึงเปิดกรุปี 2500 ในครั้งนั้นใช้วิธีการต่างๆ และวิธีที่ hot hit ที่สุดคือการตกเบ็ด การตกเบ็ดพระสมเด็จนั้นมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ 1.ตกด้วยดินเหนียว คือการนำดินเหนียวมาปั่นเป็นลูกกลมๆ ผูกติดกับเชือกเบ็ดแล้วหย่อนลงใปในช่องระบายอากาศของเจดี วิธีที่2 คือการนำเอาตุ๊กแก มามัดหางกับเชือกเบ็ดแล้วย่อนลงใปในชองลมตีนต๊กแกจะเหนียวและติดพระขึ้นมา วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้พระเสียหายน้อยที่สุด การตกเบ็ดในครั้งนั้นพระที่ออกมาจะสวยงามมีคลาบกรุน้อย เราจึงเรียกว่ากรุเก่า การขโมยพระสมเด็จมีมานานแต่การขโมยครั้งใหญ่นั้น มีขึ้นในปี พศ 2500 ก่อนเปิดกรุ บอกเล่าโดย พระพิสุวงษ์ สุธรรมโม ในคืนวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกไม่แรงมากมีนักเลงพระ ทางภาคเหนือ ร่วมกับเพื่อนลักขุดที่ใต้ฐานพระเจดีพอตัวมุดเข้าไปได้ ขนพระขึ้นมามากมายหลายสิบถุง คิดว่าเกินหมื่นองค์ จนหิ้วไม่ใหว ประกอบกับกลัวเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาพบ ก็มีบางส่วนถูกทิ้งไว้ข้าง เจดีอยู่หลายถุง ดังนั้นก็ไม่แปลกที่ท่านอาจจะพบเจอสมเด็จบางขุนพรมแถวภาคเหนือเพราะมีพระหลุดไปหลายหมื่นองค์เหมือนกัน ส่วนพระที่ถูกทิ้งไว้ มีชาวบ้านในระแวกนั้น ชื่อ ธนา เก็บพระสมเด็จที่คนร้ายได้ทิ้งเอาไว้ ขายต่อให้กับ นายเถกิงเดช คล่องบัญชี ดังนั้นท่านจะเห็นว่า ความเป็นจริงแล้ว พระบางขุนพรมกรุเก่าที่มีการขโมยขุดมาตั่งแต่ 2425 จนถึง 2500 มีจำนวนมากมายกว่าตอนที่เปิดกรุอย่างเป็นทางการเสียอีก จะเรียกได้ว่า ทางวัดมาขุดเป็นมือสุดท้ายก็ว่าได้ ดังนั้น ทางวัดจึงมีพระ สวยสมบูรณ์ตอนออกจากรุนั้น แค่ 2950 องค์แค่นั้น นอกนั้นก็เป็นพระหักหมด ดังนั้น หากนับระกรุเก่ากรุใหม่ รวมกันแล้วน่าจะมีสมเด็จบางขุนพรมที่มีอยู่พอเล่นหา อย่างต่ำๆ ก็เกิน 10,000 องค์ขึ้นไป จากทั้งหมด 84,000 องค์ ดังนั้นอย่าคิดว่ามีน้อย เปิดกรุมีน้อยก็จริงแต่อย่าลืมก่อนหน้านั้นเขาขโมยขุดกันมาก่อนนะครับ