พระ​ชัยวัฒน์​หลวงพ่อ​สุด​ วัด​หนอง​หวาย​ จ​สุรา​ษฎร์ธานี​

รายละเอียด ...หลวงพ่อสุทธิ์ วัดหนองหวาย อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ที่จริงแล้ววัดที่ท่านอยู่ คือ “วัดมัชฌิมาราม หรือวัดกลาง” แต่ที่ผู้คนเรียก “วัดหนองหวาย” เข้าใจว่าเรียกกันติดปากมาตั้งแต่สมัย “มหาสงครามเอเซียบูรพา” ปี.2484 ครั้งที่พวกญี่ปุ่นขึ้นบกที่อ่าวบ้านดอน หลวงพ่อสุทธิ์ท่านจึงได้ไปแจกวัตถุมงคลที่ “สถานีรถไฟท่าชนะ” สมัยก่อนชาวบ้านทั่วไปเรียก “สถานีหนองหวาย”นั่นเอง... ...ประวัติของหลวงพ่อสุทธิ์ จากการสอบถามจาก “คุณตารวบ วัตฏิสุ อายุ 90 ปี และตาหมอชุม อายุ 95 ปี” ซึ่งปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ ยืนยันว่า หลวงพ่อท่านเป็นคน “บ้านหนองนิล” อ.ท่าชนะ และสมัยนั้นมี คุณแม่ชีพลับ ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องสาวของหลวงพ่อ ซึ่งเป็นคนบ้านหนองนิลด้วยกัน คอยอุปัฏฐากอยู่โรงครัวประจำวัดกลางช่วยเหลือหลวงพ่อจนสิ้นสมัย เดิมแต่แรกหลวงพ่อสุทธิ์ท่านจำพรรษาอยู่ที่”วัดดอนวัด” อยู่ที่บริเวณถ้ำ”เขาประสงค์” ครั้นต่อมาตำแหน่งเจ้าอาวาสที่วัดมัชฌิมารามว่างลง จึงได้ไปนิมนต์ท่านจากถ้ำเขาประสงค์ มาเป็นเจ้าอาวาสของวัดมัชฌิมาราม (สืบต่อมาหลวงพ่อน้อย ,หลวงพ่อวรรณ(อดีตผู้ใหญ่วรรณ) ,พระครูจิต ,หลวงพ่อกลั่น และหลวงพ่อโอ๊ดคือเจ้าอาวาสคนปัจจุบัน) ...หลวงพ่อสุทธิ์ ท่านเป็นพระอาจารย์ที่เรืองเวทย์วิทยาคมเข้มขลังมากที่สุดองค์หนึ่ง ของสายเหนียวตัวจริง ที่กล้ากล่าวเช่นนี้ เพราะพระชัยวัฒน์ที่ท่านสร้างขึ้นนั้น มีประสบการณ์อย่างโชกโชนจากผู้ใช้บูชาติดตัว ทั้งอาวุธปืนสั้นตลอดถึงอาวุธสงครามโดนกันมานักต่อนักแล้ว รอดชีวิตมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ พระของท่านกล่าวกันว่า "ผสมแร่เหล็กไหล" ที่ท่านนำมาจากเขาสามร้อยยอด จ.เพชรบุรี และเหล็กไหลส่วนนี้แรกใส่เข้าไปในเบ้าหลอมไม่ยอมละลาย จนหลวงพ่อสุดต้องทำพิธีขอด้วยตัวเอง เหล็กไหลจึงหลอมละลายไป นอกจากนี้ วัตถุมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้นำมาหล่อหลอมรวมกันมีทั้ง ทองเหลือง, เงินพดด้วง, เงินหัวนะโมโบราณ, เงินเหรียญเก่า, ทองคำ, ทองสัมฤทธิ์, ตะปูสังฆวานรที่ตอกฝาโลง, โลหะกระดุมเสื้อนักรบโบราณ, ทองสัมริดจากพระบูชาโบราณที่ชำรุดฯลฯ เรียกได้ว่า "เป็นพระที่หล่อรวมด้วยมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ที่เข้มขลังอย่างยิ่งยวดรุ่นหนึ่งทีเดียว ก่อนทำการหล่อเทพระชัยวัฒน์ หลวงพ่อสุทธิ์ท่านทำพิธี “สะกดข่มพลังวัตถุอาถรรพณ์” ที่นำมาหล่อพระทั้งหมดให้นิ่งสงบลงก่อน จากนั้นจึงปลุกเสกพลังพระพุทธคุณลงไปจนเต็ม แล้วจึงคลายพลังอาถรรพณ์วัตถุภายหลัง เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ จะปลุกเสกพลังเวทย์วิทยาคมเข้าสู่องค์พระไม่ได้ หลังจากสร้างพระเสร็จ ผู้ที่จะบูชาพระของท่าน ต้องทดลองยิงด้วยปืนว่ายิงไม่ออก ถึงจะได้พระไปบูชา เพราะหลวงพ่อได้กล่าวก่อนทำการสร้างพระรุ่นนี้ว่า "ท่านจะสร้างพระให้คนมั่นใจแล้วนำไปแขวน ไม่ใช่ให้นำไปวางทิ้งไว้ที่หิ้งพระอย่างไม่สนใจ" ดังนั้นถ้าไม่กล้ายิงท่านจะไม่มอบพระให้อย่างเด็ดขาด นับว่าหลวงพ่อท่านมั่นใจในพุทธคุณในองค์พระของท่านเป็นอย่างมาก และไม่ปรากฎเลยว่ามีพระองค์ใดที่ทดลองยิงแล้วกระสุนลั่นออกมา ทุกคนที่คล้องบูชาจึงเชื่อถือได้อย่างมั่นใจ กล่าวกันว่าขนาดชาวอิสลามที่มีข้อห้ามไม่ให้แขวนบูชาพระเครื่อง ยังได้ตัดแบ่งเอาช่อชนวน ก้นองค์พระที่เหลือไว้ติดตัวกันแทบทุกคน ผู้ใดมีไว้ครอบครองจึงหวงแหนไม่ค่อยเปลี่ยนมือกัน เว้นแต่ตกทอดกันทางมรดก เป็นผลให้พระชัยวัฒน์ของท่านหาได้ยากยิ่งนักตลอดมา และด้วยจำนวนการสร้างที่มีจำนวนน้อยมาก ปัจจุบันพระของท่านที่แท้ตัวจริง จึงแทบกลายเป็นตำนานไปแล้วครับ...