ความนิยมซื้อขาย บ้านเดี่ยว บ้านมือสอง ในประเทศไทย
บ้าน หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยม และมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหนึ่งในประเภทบ้านที่มีการซื้อขายสูงคือ บ้านเดี่ยว (Single Detached House) เป็นบ้านที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ติดกับพื้นที่บ้านอื่น และต่อเติมในพื้นที่บ้านตัวเองได้อย่างเต็มที่ แล้วที่สำคัญเป็นสินทรัพย์ถาวร ส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้
ปัจจุบันการซื้อขายบ้านมือหนึ่ง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ทั้งเรื่องงบประมาณ ทำเล มูลค่าของที่ดิน ซึ่งบ้านมือหนึ่งที่ได้รับความนิยมจะอยู่ในแถบชานเมือง เพราะราคาเข้าถึงง่ายกว่าบ้านที่อยู่ในตัวเมือง ข้อดีของการซื้อบ้านมือหนึ่ง จะได้ทั้งบ้านที่ทันสมัย มีมาตรฐาน ไม่ต้องกังวลเรื่องซ่อมแซม มีโปรโมชั่นมากมายให้เลือก และทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารได้ไม่ยาก
แม้ว่าบ้านมือหนึ่งจะมีข้อดีมากมาย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบ้านมือสอง บ้านเดี่ยวมือสอง ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะเรื่องของราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ผู้บริโภคมีทางเลือกบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านในเขตชานเมือง หรือบ้านที่มีทำเลดีๆ ในเมือง อย่างไรก็ตามการซื้อบ้านมือหนึ่ง บ้านมือสอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เรื่องราคาหรือความต้องการเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญและส่งผลต่อการซื้อขายบ้านของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ที่มีส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนตลาด, อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ, โอกาสการลงทุน, สถานการณ์เศรษฐกิจในไทยและทั่วโลก รวมถึงเหตุการณ์หรือวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อ
การขายบ้านมือสอง เป็นการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่ตอบโจทย์ และเพื่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเงินก้อนเพื่อไปลงทุนธุรกิจอื่นต่อ หรือใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งการลงทุนเรื่องขายบ้านมือสองเป็นธุรกิจที่นิยมของนักลงทุนในไทย แต่ก็ต้องมีความรู้เรื่องของตลาด การบริหาร การประเมินบ้าน ถึงจะเป็นการลงทุนที่ได้ประสิทธิภาพ ปัจจุบันการขายบ้านมีทั้งใช้บริการนายหน้าอสังหา และประกาศขายด้วยตัวเอง ซึ่งลงประกาศขายบ้านเดี่ยวมือสอง บ้านมือสอง เจ้าของขายเองได้ง่ายๆ ที่ ENNXO

ข้อควรรู้ของผู้ขายบ้าน
มือใหม่ที่กำลังขายบ้าน แต่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร และต้องเตรียมอะไรบ้าง มาเช็คลิสต์ข้อควรรู้เกี่ยวกับการขายบ้าน ได้ดังนี้
ขายบ้าน บ้านเดี่ยวมือสอง ต้องเตรียมอะไรบ้าง
การจะขายบ้านหนึ่งหลัง มีหลายอย่างที่ต้องเตรียมให้สำหรับผู้ซื้อ ทั้งเรื่องของตัวบ้านและเอกสารต่างๆ เพื่อการซื้อขายบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น และเป็นที่ดึงดูดให้ขายออกไวมากขึ้น
สภาพบ้าน
การขายบ้านมือสองสักหลังไม่ใช่เรื่องง่าย มีหลายกระบวนการที่ต้องเตรียมความพร้อม สิ่งสำคัญคือเรื่องของสภาพบ้านที่ต้องเตรียม มีดังนี้
- โครงสร้างบ้าน เช็คส่วนของฐานราก เสา ผนัง เพดานและหลังคา ว่ามีรอยร้าว จุดคราบเชื้อรา และจุดที่ต้องซ่อมแซมหรือไม่
- ระบบไฟฟ้าและประปา เช็คสายไฟ สวิตช์ไฟ เต้ารับ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ท่อน้ำ ก๊อกน้ำ ท่อระบายน้ำแทงค์น้ำ เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย หากไม่มั่นใจเรื่องการเช็คควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจให้
- ประตูและหน้าต่าง เช็คการทำงานของกลอน บานพับ ทำงานได้ปกติหรือไม่
- ความสะอาดของบ้าน ควรทำความสะอาดบ้านและจัดระเบียบข้าวของเครื่องใช้ให้เรียบร้อยทุกซอกทุกมุม เน้นความเรียบง่าย สบายตาไว้ก่อน
- ครัวและห้องน้ำ เป็นพื้นที่ที่ผู้ซื้อให้ความสนใจเป็นพิเศษเป็นจุดที่ใช้บ่อยและเกี่ยวกับสุขอนามัยโดยตรง หากมีจุดชำรุดจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นการเช็คครัว ห้องน้ำให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ยิ่งช่วยดึงดูดความน่าสนใจของผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น
- สภาพนอกบ้าน จุดสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะส่วนของสวน รั้ว ประตู ผนังนอกบ้าน พื้นที่จอดรถ ล้วนต้องดูดี เรียบร้อยในทุกมุม
กรณีที่บ้านค่อนข้างเก่า มีสภาพทรุดโทรม แต่เจ้าของบ้านต้องการขายต่อโดยมูลค่าบ้านไม่ลดลงมากนัก การรีโนเวทบ้าน เป็นทางเลือกที่น่าลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านในราคาที่พึงพอใจ เช่น ทาสีใหม่ เปลี่ยนวัสดุภายในบ้าน ซ่อมแซมหรือดัดแปลงใหม่ อย่างไรก็ตามการรีโนเวทบ้านควรพิจารณาถึงงบประมาณ วัตถุประสงค์ และคำนึงกฎหมาย
เอกสารสำคัญ
เอกสารเป็นส่วนสำคัญที่ผู้ขายขาดไม่ได้ เพื่อให้การซื้อขายบ้านผ่านไปได้ด้วยดี ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยเอกสารที่ผู้ขายบ้านต้องเตรียม คือ
- โฉนดที่ดินฉบับจริง
- บัตรประชาชน พร้อมสำเนาของผู้ขาย (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
- ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนาของผู้ขาย (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
- หนังสือให้ความยินยอมขายบ้านจากคู่สมรส (กรณีจดทะเบียนสมรส)
- หนังสือสัญญาจะซื้อขาย เป็นสัญญาที่แสดงรายละเอียดการซื้อขายของผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น เรื่องราคา เงินมัดจำ ข้อมูลบ้าน และชื่อของคู่สัญญา เป็นต้น
- หนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินเรื่อง

ข้อดีและข้อเสียของการขายบ้านมือสอง
การซื้อขายบ้านมือสอง มีข้อดี ข้อเสียที่ต้องพิจารณา คือ
ข้อดีของการขายบ้านมือสอง
- ได้เงินก้อนไปลงทุนต่อหรือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว
- แก้ปัญหาเรื่องหาบ้านใหม่ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต
- เลี่ยงการขาดทุน เลือกขายในช่วงจังหวะที่ตลาดกำลังดี
- เพิ่มมูลค่าให้บ้าน จากการรีโนเวท
ข้อเสียของการขายบ้านมือสอง
- ขั้นตอนการขายค่อนข้างเยอะและยุ่งยาก
- มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องเตรียมไว้ก่อนขาย
- ต้องเตรียมเอกสารและรู้เรื่องภาษี กฎหมายต่างๆ เกี่ยวกับซื้อขายบ้าน
- การขายบ้านมือสอง เป็นตลาดที่แข่งขันสูงและมีความผันผวน
- ต้องมีเวลาที่จะคุยตกลงกับผู้ซื้อ และพาชมบ้าน

วิธีลงประกาศขายบ้านที่ ENNXO
นอกจากเตรียมบ้าน เอกสาร ค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมอีกอย่างคือ ช่องทางในการลงประกาศขายบ้าน สำหรับใครที่ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าอสังหา ซึ่งที่ ENNXO เป็นตลาดซื้อขายบ้านเดี่ยว บ้านมือสอง ให้เจ้าของมาลงประกาศขายเองได้ง่ายๆ ชั้นตอนไม่ซับซ้อน แล้วที่สำคัญฟรีทุกขั้นตอน มีขั้นตอนการลงขาย ดังนี้
- ขั้นตอน 1 เข้าเว็บไซต์ ENNXO.COM หรือแอปพลิเคชัน ENNXO
- ขั้นตอน 2 สมัครสมาชิก
- ขั้นตอน 3 ลงขายบ้าน กรอกรายละเอียดให้ครบทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความดึงดูดให้ผู้ซื้อ
- ขั้นตอน 4 ลงประกาศขาย
- ขั้นตอน 5 คอยดันประกาศสินค้า เพื่อเพิ่มการมองเห็นมากขึ้น
เมื่อลงขายเรียบร้อย รอผู้ซื้อติดต่อมาทางช่องทางส่วนตัวหรือระบบแชท ของ ENNXO นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ดีๆ อีกเพียบ ที่ช่วยให้การซื้อขายบ้านเป็นเรื่องง่ายและสะดวก

ข้อควรรู้ของผู้ซื้อบ้าน
ใครที่กำลังหาซื้อบ้านเดี่ยวมือสองอยู่ แต่ยังไม่มั่นใจเรื่องการเตรียมตัวว่าต้องเช็ค หรือเตรียมอะไรบ้าง มาทำความเข้าใจการซื้อบ้านมือสอง ได้ดังนี้
ซื้อบ้าน บ้านเดี่ยวมือสอง ต้องเตรียมอะไรบ้าง
การจะซื้อบ้านมือสองสักหลัง นอกจากความพึงพอใจตัวบ้านแล้ว ยังมีหลายเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อม เพื่อให้ได้บ้านในสภาพดี คุ้มค่ากับที่จ่าย รวมถึงเรื่องเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับบ้านที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ
งบประมาณ
งบประมาณเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการซื้อบ้าน ไม่ใช่เพียงแค่ค่าซื้อบ้านเท่านั้น แต่ยังมีค่าที่ต้องจ่ายอีกมากมาย โดยต้องเตรียมงบประมาณโดยคำนึงเรื่องค่าใช้จ่ายต่อไปนี้
- ค่ามัดจำบ้าน อยู่ที่ประมาณ 5-20% เป็นส่วนของการจองสิทธิ์ในการซื้อบ้าน
- ค่าใช้จ่ายขอสินเชื่อ กรณีกู้เงินจากธนาคาร จะมีค่าธรรมเนียมต่างๆ อย่าง ค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ประมาณ 0-1% ของวงเงินกู้, ค่าประเมินราคา ประมาณ 1,000-3,000 บาท, ค่าประกันสินเชื่อบ้าน และค่าเบี้ยประกันบ้านมือสองจากภัยพิบัติต่างๆ
- ค่าตรวจบ้านก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ค่าที่ต้องจ่ายให้กับผู้เชี่ยวชาญที่จ้างมาตรวจสภาพบ้าน
- ค่าใช้จ่ายต่างๆ เกี่ยวกับโอนกรรมสิทธิ์ เป็นส่วนค่าใช้จ่ายที่ต้องตกลงกับผู้ขายด้วย
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน ค่าตกแต่งบ้าน ค่ารีโนเวทบ้าน และค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น
ตรวจสอบสภาพบ้าน และทำเล
เมื่อคุณพบเจอบ้านที่ถูกใจแล้ว ยังมีหลายเรื่องที่ควรรู้และควรตรวจสอบให้ละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้บ้านที่ดี มีทำเลที่เหมาะสม และมีสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ การใส่ใจเรื่องเหล่านี้จะช่วยลดปัญหาที่ไม่คาดฝันในอนาคตได้อย่างมาก โดยมีจุดสำคัญที่ต้องพิจารณา ดังนี้
- สภาพบ้าน ตรวจสอบให้ละเอียดทุกซอกทุกมุม ทั้งภายนอกและภายใน ประเมินว่ามีจุดชำรุดมากน้อยแค่ไหน
- ระบบไฟฟ้าและประปา ตรวจสอบว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่ มีจุดตรงไหนที่ควรซ่อมแซมบ้าง
- สภาพที่ดิน ตรวจสอบดินว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายไหม และเช็คประวัติที่ดินให้ถี่ถ้วน
- ประวัติบ้าน ตรวจสอบว่าบ้านผ่านการซ่อมแซมมากี่ครั้ง รวมถึงมีเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อตัวบ้านไหม
- ทำเล บ้านที่เลือกซื้ออยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกหรือไม่ ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกไหม เพราะถ้ามีทำเลดี ยิ่งสะดวกต่อการดำเนินชีวิต การขายต่อได้ในอนาคต และมูลค่าของที่ดินที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว
- สภาพแวดล้อม เพื่อนบ้านดีเป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย
เอกสารสำคัญ
การเตรียมเอกสารของผู้ซื้อบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ผู้ขาย ถึงแม้เอกสารที่ต้องเตรียมจะคล้ายๆ กัน แต่ก็มีเอกสารบางประเภทที่ผู้ซื้อต้องเตรียมไว้เฉพาะ เพื่อให้การซื้อขายบ้านมือสองผ่านไปได้ด้วยดี เอกสารที่ต้องเตรียมพร้อม มีดังนี้
- บัตรประชาชน พร้อมสำเนาของผู้ซื้อ (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
- ทะเบียนบ้าน พร้อมสำเนาของผู้ซื้อ (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
- หลักฐานด้านการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรองรับเงินเดือน รายการเดินบัญชีย้อนหลัง เป็นต้น
- เอกสารเกี่ยวกับสถานภาพ (ถ้ามี) เช่น ใบทะเบียนสมรส ใบหย่า หนังสือให้ความยินยอมจากคู่สมรส
- หนังสือให้ความยินยอมในการตรวจเครดิตบูโร

ข้อดีและข้อเสียของการซื้อบ้านมือสอง
การซื้อบ้านมือสอง มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา ดังนี้
ข้อดีของการซื้อบ้านมือสอง
- ราคาบ้านที่เข้าถึงง่ายกว่าบ้านมือหนึ่ง
- สามารถประเมินเรื่องประเภทบ้าน ทำเล สภาพแวดล้อม และงบประมาณได้
- รีโนเวทได้ตามความต้องการ สร้างมูลค่าให้กับบ้านในระยะยาว
ข้อเสียของการซื้อบ้านมือสอง
- ค่าซ่อมแซมและปรับปรุงที่ต้องเจอ
- การออกแบบไม่ทันสมัยเท่าบ้านปัจจุบัน
- ขั้นตอนที่ยุ่งยากในการขอสินเชื่อ
- การเตรียมเอกสารมากมายในการโอนกรรมสิทธิ์

การขอสินเชื่อบ้าน ทำยังไงบ้าง
การขอสินเชื่อบ้านสำหรับซื้อบ้านนั้น นอกจากเตรียมเอกสารแล้ว การเตรียมประวัติทางการเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ภาระหนี้ที่ต้องไม่เกิน 30-40% ของรายได้, ประวัติการชำระหนี้, การเคลื่อนไหวของบัญชี, รายได้ของผู้กู้, ประวัติเครดิตบูโร เป็นต้น โดยวงเงินกู้จะขึ้นอยู่กับราคาประเมินของธนาคาร และสัญญาจะซื้อขาย ที่มีราคาบ้านระบุอยู่ในสัญญา
วิธีหาบ้าน ราคาถูกที่ ENNXO
นอกจากการให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ช่วยหาบ้านแล้ว การค้นหาบ้านด้วยตัวเองก็ได้รับความนิยม ปัจจุบันมีหลากหลายแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายบ้าน หนึ่งในนั้นคือ ENNXO ซึ่งเป็นแหล่งรวมซื้อขายบ้านมือสองจากทั่วประเทศไทย ที่เจ้าของบ้านสามารถลงประกาศขายได้โดยตรง โดยขั้นตอนการหาบ้านมือสอง มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- ขั้นตอน 1 เข้าเว็บไซต์ ENNXO.COM หรือแอปพลิเคชัน ENNXO
- ขั้นตอน 2 เข้าหน้าหมวดหมู่ บ้านเดี่ยว สำหรับขาย
- ขั้นตอน 3 ใช้ตัวกรองเลือกทำเลที่ต้องการ
- ขั้นตอน 4 ใส่ราคาที่ต้องการ
ตัวกรองของเอ็นโซ่มีให้เลือกนอกเหนือจากนี้ ไม่ว่าจะเป็น บ้านมือสองใกล้ฉัน, ห้องนอน, ห้องน้ำ, ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน และทำเลใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งถ้าคุณถูกใจบ้านหลังไหน สามารถกดถูกใจแล้วมาดูภายหลังได้ หรือถ้าต้องการสอบถามรายละเอียด ทักคุยกับเจ้าของประกาศผ่านระบบแชทได้ทันที

ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย
ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียม คือ ค่าโอนบ้าน และภาษีบางส่วนในการโอนกรรมสิทธิ์ โดยค่าใช้จ่ายไม่มีกฎหมายตายตัวว่าใครต้องเป็นผู้จ่าย ขึ้นอยู่กับการเจรจาและการดีลของทั้งสองฝ่ายว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนไหน โดยแบ่งได้เป็นดังนี้
เอกสาร | อัตาคำนวณ | ผู้รับผิดชอบ |
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ | 2% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง | ส่วนใหญ่ผู้ซื้อและผู้ขาย รับผิดชอบคนละ 1% |
ภาษีธุรกิจเฉพาะ | 3.3% ของราคาซื้อขาย (กรณีที่ผู้ขายครอบครองบ้านไม่ถึง 5 ปี หรือชื่อในทะเบียนบ้านน้อยกว่า 1 ปี) | ส่วนใหญ่เป็นผู้ขาย |
ค่าอากรแสตมป์ | 0.5% ของราคาซื้อขาย (ไม่ต่ำกว่าราคาประเมิน และต้องเสียเมื่อได้รับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ) | ผู้ขาย |
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา | คำนวณโดยใช้ราคาประเมินของกรมที่ดิน กับจำนวนปีที่ครอบครอง | ผู้ขาย |
ค่าจดจำนอง | 1% ของยอดเงินกู้ทั้งหมด (กรณีขอกู้จากธนาคาร) | ผู้ซื้อ |
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมคำขอ ค่าพยาน เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการตกลงของผู้ซื้อและผู้ขาย |
เรื่องสัญญาที่ควรรู้ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย
การซื้อขายบ้านมือสอง จะมีเรื่องสัญญาสำคัญที่ผู้ซื้อและผู้ขายที่ควรรู้ หลักๆ มี 2 สัญญาด้วยกัน คือ
1.สัญญาจะซื้อขาย เป็นสัญญาที่ผู้ซื้อผู้ขายต้องตกลงกัน ทั้งเรื่องของรายละเอียดของคู่สัญญา อสังหาริมทรัพย์ ราคาซื้อ การชำระเงิน การโอนกรรมสิทธิ์ และข้อผิดสัญญา เป็นต้น โดยเป็นสัญญาที่ทำขึ้นก่อนซื้อ เพื่อให้ผู้ซื้อได้นำไปขอสินเชื่อบ้านจากธนาคาร
2.สัญญาซื้อขาย หรือ หนังสือสัญญาขายที่ดิน (ท.ด.13) เป็นสัญญาที่มีผลทางกฎหมาย ในการมอบกรรมสิทธิ์บ้านให้กับผู้ซื้อ
ราคาบ้าน มือสอง ในปัจจุบัน
บ้านมือสองมีราคาค่อนข้างหลากหลาย ส่วนใหญ่ราคาจะเริ่มต้นหลักล้านบาทเป็นต้นไป โดยราคานั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่างทำเลที่ตั้ง สภาพบ้าน ปีที่สร้าง ยิ่งทำเลดี ราคาก็ยิ่งสูง ดังนั้นการจะตัดสินใจซื้อขายบ้านมือสองควรเข้าใจตลาด ภาษี กฎหมายต่างๆ และความรอบคอบในการตรวจรายละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อให้การซื้อขายบ้านสำเร็จไปได้ด้วยดีทั้งสองฝ่าย