หลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของคนจังหวัดเพชรบุรี

ภาพความสวยงามของรถขบวนแห่หลวงพ่อทองวัดเขาตะเคราวนกลับมาอีกครั้งในรอบ 1 ปี ซึ่งในปี 2566 นี้ ได้ขับผ่านรอบตลาดเพชรบุรีระยะความยาว 18 เมตร เหล่าพุทธศาสนิกชนที่พบเห็น ต่างแสดงความศรัทธาด้วยการกราบไหว้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยประเพณีการแห่รถนี้เปรียบเป็นพิธีฤกษ์งามยามดี ของการเปิดงานประจำปีนมัสการปิดทององค์หลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา นับว่าเป็นเทศกาลงานบุญประจำปีที่สำคัญของชาวจังหวัดเพชรบุรี วันนี้ทางเราจะพาทุกคนมารู้จักหลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา รวมถึงเทศกาลที่ว่านี้เป็นอย่างไร มาดูกันเลย

ขอบคุณภาพจาก Facebook: Saweephat Khruenjit

หลวงพ่อทองเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ไม่ทราบประวัติผู้สร้าง และอายุการสร้าง ตามตำนานมีการเล่าถึงที่มาของหลวงพ่อทองไว้หลักๆ 3 ที่มา คือ 

1.มีเรื่องเล่าว่าแต่เดิมมีพระสงฆ์ 2 รูป สามเณร 1 รูป ที่เป็นพี่น้องกัน และมีความสามารถด้านฤทธิ์อำนาจ จึงได้ทดสอบพลังด้วยการกระโดดลงน้ำแล้วกลายเป็นพระพุทธรูป โดยพระรูปแรกได้แสดงฤทธิ์ก่อน พร้อมกับบอกพระรูปอื่นว่าต้องราดด้วยน้ำมนต์ ถึงจะกลับมาเป็นร่างปกติได้ แต่แล้วก็ไม่มีใครทำเช่นนั้น เพราะพระทุกรูปต่างมีความคิดว่า “เราก็ทำแบบนั้นได้” เมื่อไม่มีใครนึกถึงการรดน้ำมนต์ ทำให้พระทุกรูปกลายเป็นพระพุทธรูปที่ลอยไปตามแม่น้ำ ซึ่งพระพุทธรูปทั้งสามนั้นคือหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อแหลม และหลวงพ่อทอง

2.หลวงพ่อทองเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปห้าพี่น้องที่ลอยมาจากทางตอนเหนือ ว่ากันว่าผู้คนในอดีตได้นำพระพุทธรูปลอยลงสู่แม่น้ำ เพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลายในช่วงคราวเสียกรุงครั้งที่ 2 ซึ่งพระพุทธรูปทั้งห้านั้นคือ หลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อแหลม, หลวงพ่อทอง, หลวงพ่อบางพลีใหญ่ และหลวงพ่อวัดไร่ขิง

3.มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คนที่เป็นพระภิกษุ ได้ตั้งปณิธานว่าจะช่วยเหลือสัตว์โลกให้พ้นทุกข์จนกว่าจะนิพพาน ดังนั้นเมื่อมรณภาพลงจึงได้ไปสถิตอยู่ในพระพุทธรูปที่แสดงอิทธิปาฏิหาริย์มาตามแม่น้ำทั้งห้า ได้แก่ หลวงพ่อโสธร (แม่น้ำบางปะกง), หลวงพ่อวัดไร่ขิง (แม่น้ำนครชัยศรี), หลวงพ่อโต (แม่น้ำเจ้าพระยา), หลวงพ่อบ้านแหลม (แม่น้ำแม่กลอง) และหลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา (แม่น้ำเพชรบุรี)

จากตำนานทั้งสามเรื่องนี้ สิ่งที่เหมือนกันคือ หลวงพ่อทองเป็นพระพุทธรูปที่ลอยมาตามน้ำ ซึ่งการค้นพบหลวงพ่อทองนั้นมีเรื่องเล่าต่อมาว่า ในขณะที่ชาวประมงกำลังลากอวนหาปลา ก็ได้พบเจอพระพุทธรูปสององค์ โดยชาวบ้านแหลมได้นำพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรไปประดิษฐานที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร แล้วได้ให้ชาวบางตะบูนนำอีกองค์หนึ่ง (หลวงพ่อทอง) ไปประดิษฐานที่วัดเขาตะเครา

วัดเขาตะเครานี้ตั้งอยู่ที่ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อไหร่ แต่ตัววัดมีการปรากฏอยู่ในบทประพันธ์ “เพลงยาวหม่อมภิมเสน” นิราศสมัยอยุธยา ที่พูดถึงการเดินทางของหม่อมภิมเสนไปเมืองเพชรบุรี แล้วผ่านวัดเขาตะเครา จากหลักฐานนี้บ่งบอกได้ว่าวัดเขาตะเคราเป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยานั่นเอง นอกจากนี้ชื่อของวัด เชื่อว่าเจ้าสัวชาวจีนเป็นผู้ให้สร้าง โดยมอบหมายให้คนนึงที่มีลักษณะเครายาวเป็นผู้ดูแล จึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดเขาจีนเครา” ก่อนจะค่อยๆ เพี้ยนกลายเป็น “วัดเขาตะเครา” ดังในปัจจุบัน

กลับมาที่หลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สูง 29 นิ้ว หน้าตักกว้าง 21 นิ้ว ซึ่งได้ปรากฏอยู่ใน “นิราศเมืองเพชร” ของสุนทรภู่อีกด้วย กล่าวว่า “ไปครู่หนึ่งถึงเขาตะเคราสวาท มีอาวาสวัดวามหาเถร มะพร้าวรอบขอบที่บริเวณ พอจวนเพลพักร้อนผ่อนสำราญ กับหนูพัดจัดธูปเทียนดอกไม้ จะขึ้นไว้พระสัมฤทธิ์อธิษฐาน เขานับถือลืออยู่แต่บูราณ ใครบนบานพระรับช่วยดับร้อน”

ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คนเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อทองเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าท่านจะบันดาลพรให้ตามดังปรารถนา รวมถึงแห่กันเข้าไปปิดทององค์พระจนไม่เห็นองค์พระดั้งเดิม ผู้คนจึงนิยมเรียกชื่อว่า ‘หลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา’ แทน ‘หลวงพ่อวัดเขาตะเครา’ ไม่เพียงเท่านี้ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับท่านที่ได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ไว้มากมาย ส่งผลให้ความเชื่อขยายเป็นวงกว้างที่ไม่ว่าใครต่างก็อยากเข้ามาสักการะ ขอพร หรือบนบานต่อท่าน 

อย่างที่เราได้เกริ่นไปช่วงแรกว่าทางวัดเขาตะเคราได้มีงานประจำปีนมัสการปิดทองหลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา เพื่อให้เหล่าพุทธศาสนิกชนได้เข้ามากราบไหว้ และปิดทองพระพุทธรูปองค์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเพชรบุรี เริ่มแรกของการเปิดงานจะมีการแห่หลวงพ่อทองวัดเขาตะเคราด้วยเรือพระสวยงาม ส่วนภายในงานยังมีแสง สี เสียงที่อลังการ มีคอนเสิร์ตนักร้องลูกทุ่งขวัญใจประชาชน ภาพยนตร์ ละครชาตรี หนังตะลุง และร้านอาหารมากมาย นับว่าเป็นเทศกาลที่จัดหนักจัดเต็ม โดยส่วนใหญ่งานนี้มักจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ซึ่งในปี 2566 นี้ จัดตรงกับวันที่ 4-12 มีนาคม หากใครอยากเพิ่มความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สามารถเข้าไปแวะเวียนกราบไหว้หรือขอพรท่านได้ทุกวัน

ขอบคุณภาพจาก เพจหลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี

นอกจากหลวงพ่อทองวัดเขาตะเคราที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังมีวัตถุมงคลที่ถูกจัดสร้างจากวัดเขาตะเครา ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไม่แพ้กัน อย่าง “เหรียญรุ่นที่สร้างในปี 2465” เป็นเหรียญหล่อโบราณที่ทำเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงเรียกว่า “เหรียญหล่อสี่เหลี่ยมปรกโพธิ์” ตัวเหรียญเป็นการจำลองหลวงพ่อทองวัดเขาตะเคราประทับนั่งแบบปางมารวิชัย อยู่เหนืออาสนะ ส่วนอีกด้านของเหรียญเป็นอักขระขอม เขียนว่า “อิ สวา สุ มิ โน เชย ยะ” นับว่าเป็นเหรียญที่หายากยิ่ง และมีราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว 

ยังมี “ลูกอมทองไหล” ที่เป็นวัตถุมงคลยอดนิยมอีกด้วย โดยมีเรื่องเล่าว่าวันหนึ่งท่านเจ้าอาวาสพระครูวชิรกิจโสภณได้นิมิตว่ามีพระสูงอายุรูปหนึ่งนำถุงบรรจุทองมาให้ ต่อมาไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้องค์หลวงพ่อทอง ทำให้ทองคำหลอมไหม้ออกมา เจ้าอาวาสจึงมาทำเป็นลูกอมทองไหลนั่นเอง

อีกหนึ่งเหรียญที่จำลองหลวงพ่อทองวัดเขาตะเคราที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเหรียญนี้ไม่ได้ถูกสร้างจากวัดเขาตะเครา แต่ถูกสร้างที่วัดต้นสน เป็นเหรียญที่วงการพระต่างนิยมเล่นกัน เป็นเหรียญปั๊มทรงเสมา หลวงพ่อทองประทับนั่งในท่าปางมารวิชัยบนบัวคว่ำ บัวหงาย ด้านบนมีคำว่า "หลวงพ่อวัดเขา" ส่วนด้านล่างเป็น "พ.ศ.๒๔๖๘" ส่วนด้านหลังเป็นอักขระขอม เขียนว่า "อุ นะโม พุทธายะ อะสังวิสุ โลปุสะพุกะ"

หากคุณสนใจอยากซื้อขายพระเครื่องหลวงพ่อทองวัดเขาตะเคราสามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่ ENNXO ตลาดพระเครื่องออนไลน์ เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ให้คุณได้เช่าพระเครื่องไปบูชา หรือลงประกาศขาย ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ พื้นที่ออนไลน์ดีๆ ของคนรักพระที่ไม่ควรพลาด