
ความนิยมซื้อขายรถ Honda Freed ในประเทศไทย
Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด) รถยนต์อเนกประสงค์ หรือรถตู้ขนาดเล็ก เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย เพราะมีขนาดกะทัดรัด ขับขี่ในเมืองได้สะดวก แต่ในปี 2016 Honda Freed ได้ยุติการทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้คนลืมรถตู้รุ่นนี้ไป เพราะในตลาดรถมือสองค่อนข้างมีการซื้อขาย Honda Freed ที่คึกคักเลยทีเดียว
เหตุผลที่ Honda Freed มือสองได้รับความนิยมอยู่ ถึงแม้จะมีรถตู้ขนาดเล็กของค่ายอื่นที่เข้ามาทำตลาดเป็นคู่แข่งแทน นั่นก็เพราะตัวเลือก Honda Freed มือสองในตลาดรถมือสองยังคงมีให้เลือกมากมาย ราคาเข้าถึงง่าย แล้วที่สำคัญคือการดีไซน์ที่ไม่ดูเก่า มีความทันสมัย ประตูเป็นระบบไฟฟ้า และตัวอะไหล่หาซื้อง่าย สะดวกกับคนที่ใช้ขับทางไกลแล้วเจอปัญหารถชำรุดระหว่างทาง ดังนั้นหากนึกถึงรถตู้ขนาดพอดี น่าใช้งาน รถฮอนด้า ฟรีดยังคงเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงเป็นอันดับต้นๆ อยู่
Honda Freed ราคามือสองปัจจุบัน
Honda Freed ราคาเปิดตัวในแต่ละรุ่น ราคาอยู่ที่ประมาณ 800,000 - 1,100,000 บาท ปัจจุบันหากต้องการซื้อรถตู้ฮอนด้า ฟรีด มีเพียงมือสองเท่านั้น เช็คราคา Honda Freed มือสองได้ดังนี้
- Honda Freed รุ่น S ราคามือสองประมาณ 200,000 - 300,000 บาท
- Honda Freed รุ่น E ราคามือสองประมาณ 250,000 - 350,000 บาท
- Honda Freed รุ่น SE ราคามือสองประมาณ 280,000 - 400,000 บาท
- Honda Freed รุ่น EL ราคามือสองประมาณ 320,000 - 420,000 บาท

รวมรถ Honda Freed ทุกเจเนอเรชัน
Honda Freed จำหน่ายในไทยเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ดังนั้นเอ็นโซ่จะรวม Honda Freed ทุกเจเนอเรชันที่ยังมีขายอยู่ ไม่ใช่ขายในไทยเท่านั้น ดังนี้
เจเนอเรชันที่ 1 ปี 2008 - 2016
Honda Freed เจเนอเรชัน 1 เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นปี 2008 ถูกสร้างให้มีแพลตฟอร์มเดียวกับ Honda Jazz และ Honda City แต่จะมีกำลังและแรงบิดสูงกว่า โดยนำมาแทนที่รถ Honda Mobilio จุดเด่นของ Honda Freed รุ่นแรก คือความทนทานของเครื่องยนต์ ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร, ห้องโดยสารมีให้เลือกหลายแบบทั้ง 6 ที่นั่ง 7 ที่นั่ง และ 8 ที่นั่ง และตัวรถมีขนาดกะทัดรัด
ฮอนด้า ฟรีด รุ่นแรกนี้ได้ถูกนำมาจำหน่ายในไทยโดยนำเข้าจากโรงงานในอินโดนีเซีย มีรุ่นย่อยทั้งหมด 4 รุ่นคือ Honda Freed S (ประตูเปิดปิดแบบ Manual), Honda Freed E (ประตูไฟฟ้าเปิดปิด), Honda Freed E Sport และ Honda Freed E Navi Sport ต่อมาในปี 2012 รถ Honda Freed ได้รับการปรับโฉมเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ มีปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางอย่าง เช่น กระจังหน้า, ล้อรถ และหน้าจอสัมผัส เป็นต้น รวมถึงเหลือเพียงสองรุ่นคือ SE และ EL ที่ครบเครื่องมากกว่ารุ่นแรกๆ
อย่างไรก็ตามในตลาดญี่ปุ่นมีรุ่นย่อยเพิ่มขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้นอย่าง Freed Spike แบบ 5 ที่นั่ง และ Freed Hybrid เครื่องยนต์เบนซินผสมกับมอเตอร์ไฟฟ้า หากต้องการสองรุ่นนี้ต้องหาแบบมือสองที่นำเข้าแบบอิสระเท่านั้น เพราะไม่มีจำหน่ายในไทย
- เครื่องยนต์: เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร
- กำลังสูงสุด: 118 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: 14.9 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที
- ระบบเกียร์: เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 14 - 16 กิโลเมตร/ลิตร

เจเนอเรชันที่ 2 ปี 2017 - 2024
Honda Freed เจเนอเรชัน 2 มีจุดเด่นคือเรื่องเทคโนโลยีที่ปรับให้ทันสมัยมากขึ้น เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เจเนอเรชันนี้ไม่มีจำหน่ายในไทย โดยรุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังตระกูล Earth Dreams ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้ดีขึ้น มีให้เลือกเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC และไฮบริด ระบบ Sport Hybrid i-DCD แล้วที่สำคัญคือการเพิ่มระบบความปลอดภัย Honda SENSING เข้ามา ระบบขับเคลื่อนล้อมีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วนการดีไซน์แทบไม่ต่างจากเจเนอเรชันแรก มีเพียงปรับภายในให้กว้างขึ้น ทางญี่ปุ่นออกรุ่นย่อยค่อนข้างหลากหลาย มีทั้ง Freed แบบ 6 ที่นั่ง 7 ที่นั่ง, Freed+ แบบ 5 ที่นั่ง เน้นจุของท้ายรถ และ Freed Crosstar รูปลักษณ์ที่ดุดัน แข็งแกร่งมากขึ้น โดยรุ่นเหล่านี้ซื้อได้จากการนำเข้าอิสระเท่านั้น
รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
- เครื่องยนต์: เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 131 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 155 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที
- ระบบเกียร์: เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 19 กิโลเมตร/ลิตร
รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด
- เครื่องยนต์: เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC
- มอเตอร์ไฟฟ้า: ส่วนหนึ่งของระบบไฮบริด (Sprt Hybrid i-DCD)
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 110 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 134 นิวตันเมตร
- มอเตอร์ไฟฟ้า
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 30 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: 160 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: เกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 27 กิโลเมตร/ลิตร

เจเนอเรชันที่ 3 ปี 2024 - ปัจจุบัน
Honda Freed เจเนอเรชัน 3 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 ที่ญี่ปุ่น พัฒนาภายใต้แนวคิด Smile ให้ผู้ขับขี่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ขับ All New Freed e:HEV ที่มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ Freed AIR ดีไซน์แบบเรียบหรู เน้นใช้งานได้หลากหลาย และ Freed Crosstar ดีไซน์ดูบึกบึน แข็งแกร่ง สไตล์ครอสโอเวอร์ เน้นการขับผจญภัยกลางแจ้ง ทั้งสองรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบ 5 ที่นั่งและ 6 ที่นั่ง
ภายในปรับให้ดูโปร่ง นั่งสบายกว่าเดิม หน้าจอแสดงผลข้อมูลมีขนาดใหญ่ขึ้น และทั้งสองรุ่นนี้เป็นประตูสไลด์ไฟฟ้า ถือว่า Honda Freed เจนนี้ค่อนข้างใช้งานได้หลากหลายและประหยัดน้ำมัน ใครที่สนใจฮอนด้า ฟรีดรุ่นนี้ต้องนำเข้าอิสระเหมือนกับเจเนอเรชันที่ 2
รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน
- เครื่องยนต์: เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 118 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที
- ระบบเกียร์: เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 16 กิโลเมตร/ลิตร
รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด
- เครื่องยนต์: เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 106 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 127 นิวตันเมตร
- มอเตอร์ไฟฟ้า
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 123 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: 253 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 25 กิโลเมตร/ลิตร

เปรียบเทียบสเปคแต่ละรุ่นของ Honda Freed
คุณสมบัติ | ปี 2008 - 2016 | ปี 2017 - 2024 | ปี 2024 - ปัจจุบัน |
---|---|---|---|
เครื่องยนต์ | เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร | เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC | เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC |
กำลังสูงสุด | 118 แรงม้า | ประมาณ 131 แรงม้า | ประมาณ 118 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | ประมาณ 14.9 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที | ประมาณ 155 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาที | ประมาณ 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที |
อัตราประหยัดน้ำมัน | ประมาณ 14 - 16 กิโลเมตร/ลิตร | ประมาณ 19 กิโลเมตร/ลิตร | ประมาณ 16 กิโลเมตร/ลิตร |
ระบบเกียร์ | เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT | เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT | เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT |
รุ่นย่อยของ Honda Freed
รุ่นย่อยของฮอนด้า ฟรีด ที่เอ็นโซ่พูดถึงนี้จะเป็นรุ่นย่อยล่าสุดที่เปิดตัวขายแล้วในประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่มีขายในไทย มาดูกันว่ามีความสนใจอย่างไรกัน
รุ่น Freed AIR
All New Freed รุ่น Freed Air มีเครื่องยนต์ให้เลือกแบบเบนซินและไฮบริด โดดเด่นด้วยการดีไซน์แบบเรียบง่าย สะอาดตา ไฟท้ายออกแบบให้เชื่อมกับกระจกด้านหลัง ประตูเป็นสไลด์ไฟฟ้า ภายในมีให้เลือกแบบ 6 ที่นั่งกับ 7 ที่นั่ง ตกแต่งด้วยวัสดุที่ให้สัมผัสอ่อนนุ่ม เน้นความโค้งมน ให้ความรู้สึกสบายๆ มีแอร์ให้ความเย็นบริเวณเบาะหลัง ส่วนด้านเทคโนโลยีมีเพิ่มระบบเตือนจุดอับสายตา เข้ามาในระบบความปลอดภัย Honda SENSING เหมาะกับการขับใช้งานในชีวิตประจำวัน
- เครื่องยนต์เบนซิน
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 118 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที
- แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 142 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที
- เครื่องยนต์ไฮบริด
- กำลังสูงสุด:ประมาณ 105 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด:127 นิวตันเมตร
- กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า: 131 แรงม้า
- แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้า: 253 นิวตันเมตร
- ขนาดรถ: 4,310 x 1,695 x 1,755 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x ยาว)
- ราคามือหนึ่ง:เริ่มต้น 580,000 บาท (ราคาอิงจากเปิดตัวที่ญี่ปุ่น)
- ราคานำเข้า:ประมาณ 1 ล้านบาทขึ้น (บวกค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างภาษีต่างๆ)

Freed Crosstar
All New Freed รุ่น Freed Crosstar โดดเด่นด้วยลุคความดุดัน ความแข็งแกร่ง พร้อมลุยผจญภัย ภายในมีให้เลือกแบบ 5 ที่นั่งและ 6 ที่นั่ง เน้นนั่งสบาย ให้ความกว้างขวาง เบาะนั่งแถวที่สามพับเก็บได้ มีแอร์ให้ความเย็น ผู้นั่งโดยสารด้านหลังไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อน การตกแต่งภายในมาในโทนสีดำ สีกากี ให้ลุคที่แตกต่างจากรุ่น Freed Air
- เครื่องยนต์เบนซิน
- กำลังสูงสุด: ประมาณ 118 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที
- แรงบิดสูงสุด: ประมาณ 142 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที
- เครื่องยนต์ไฮบริด
- กำลังสูงสุด:ประมาณ 105 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด:127 นิวตันเมตร
- กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า: 131 แรงม้า
- แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้า: 253 นิวตันเมตร
- ขนาดรถ: 4,310 x 1,720 x 1,755 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x ยาว)
- ราคามือหนึ่ง:เริ่มต้น 650,000 บาท (ราคาอิงจากเปิดตัวที่ญี่ปุ่น)
- ราคานำเข้า:ประมาณ 1 ล้านบาทขึ้น (บวกค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างภาษีต่างๆ)

ข้อดี-ข้อเสียของรถ Honda Freed มือสอง
Honda Freed มือสอง มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง ด้วยความที่มีเพียงเจเนอเรชันแรกเท่านั้นที่มีขายในไทย และอายุรถเริ่มเก่าไปเรื่อยๆ ส่วนถ้าเป็นฮอนด้า ฟรีด เจเนอเรชันอื่นๆ ต้องนำเข้าอิสระเท่านั้น ถึงแม้จะดูมีข้อจำกัด แต่ก็เป็นที่พูดถึงในตลาดรถมือสองค่อนข้างเยอะ มาเช็คกันว่ารถตู้ Honda Freed มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง
ข้อดีของ Honda Freed มือสอง
- ขนาดกะทัดรัด ขับขี่ในเมืองสะดวก
- ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย
- ประตูสไลด์ไฟฟ้า เป็นจุดเด่นที่หลายคนชอบ
- ดีไซน์รถทันสมัย
- อะไหล่หาซื้อง่าย
- ราคาเข้าถึงง่าย
ข้อเสียของ Honda Freed มือสอง
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน อาจไม่โดดเด่นเท่ารถค่ายอื่น
- ที่นั่งบริเวณด้านหลังร้อน เพราะรุ่นแรกๆ ไม่มีแอร์
- รุ่นใหม่ๆ หาแบบมือสองยาก เพราะต้องนำเข้าแบบอิสระ
Honda Freed มือสอง เหมาะกับใคร?
Honda Freed มือสอง มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นรถที่มีกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างชัดเจน เหมาะกับกลุ่มคนเหล่านี้
- ครอบครัวขนาดกลาง สมาชิกประมาณ 3 - 5 คน เน้นใช้งานแบบอเนกประสงค์
- ครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ โดย Honda Freed มีจุดเด่นคือประตูสไลด์ไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกในการขึ้นลงรถ (ยกเว้นรุ่นแรกๆ จะไม่มีประตูสไลด์ไฟฟ้า)
- เน้นขับในเมืองเป็นหลัก ต้องการความคล่องตัว ขนาดรถกำลังพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป
- ต้องการรถ MPV ในราคาประหยัด แน่นอนว่ารถ Honda Freed มือสอง ตอบโจทย์ได้ดีเลย แต่ส่วนใหญ่รุ่นที่หาซื้อมือสองได้ง่าย จะเป็นฮอนด้า ฟรีด เจเนอเรชันที่ 1 ที่เคยจำหน่ายในไทยนั่นเอง
ซื้อ Honda Freed มือสอง ต้องเช็คอะไรบ้าง?
รถ Honda Freed มือสองส่วนใหญ่ในตลาดรถมือสอง มีอายุรถค่อนข้างเยอะ และเป็นรถรุ่นเก่าๆ หรือรุ่นเจเนอเรชั่นที่ 1 อย่างเช่น รุ่น E รุ่น EL ซึ่งก่อนจะตัดสินใจ ENNXO มีคำแนะนำดีๆ ว่าก่อนซื้อฮอนด้า ฟรีด มือสอง นั้นควรเช็คเรื่องสำคัญๆ อะไรบ้าง
- ประตูสไลด์ไฟฟ้า ทำงานได้ปกติหรือไม่ บริเวณรางเลื่อนมีรอยเสียหายไหม รวมถึงฟังก์ชันอื่นๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งานประตูรถ
- ระบบปรับอากาศ ทำความเย็นปกติหรือไม่ แนะนำว่าให้เลือกรุ่นที่มีระบบปรับอากาศที่เบาะหลัง เพื่อความคุ้มค่าในการใช้งาน
- สภาพรถภายนอก ภายใน เช็คว่ามีจุดไหนที่ชำรุดบ้าง คุ้มค่ากับการซ่อมบำรุงไหม
- ตรวจสอบเอกสาร ทั้งประวัติผู้เป็นเจ้าของ ประวัติการจดทะเบียน และเลขเครื่องยนต์ตรงกับตัวรถจริงไหม
แนะนำรถ Honda Freed มือสอง รุ่นยอดนิยม
Honda Freed มือสอง ที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายในปัจจุบันมีเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นรุ่นเจเนอเรชันที่ 1 มีรุ่นที่น่าสนใจ ดังนี้
- Honda Freed 1.5 EL เป็นรุ่นท็อปที่มีออฟชันครบ มีระบบประตูสไลด์ไฟฟ้า และมีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง จุดเด่นทั้งสองนี้เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการจากฮอนด้า ฟรีด ถือว่าเป็นรุ่นที่นิยมที่สุด หากต้องการฮอนด้า ฟรีด มือสองที่คุ้มค่า ฟังก์ชันครบ ราคาเข้าถึงง่าย ต้องรุ่นนี้เลยโดยเฉพาะรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่มีการปรับฟังก์ชัน ซึ่งคุ้มค่าสุดๆ
- Honda Freed 1.5 SE รุ่นรองท็อปที่มีฟังก์ชันครบเช่นกัน แต่จะน้อยกว่ารุ่น 1.5 EL แต่หลักๆ ยังมีประตูสไลด์ไฟฟ้า ส่วนระบบปรับอากาศด้านหลังยังไม่มี ดังนั้นรุ่นนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการรถที่คุ้มค่า ราคาไม่แแพง
- Honda Freed 1.5 E รุ่นเริ่มต้น เหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องออปชันว่าต้องมีครบ เน้นใช้งาน และต้องการราคาเข้าถึงง่ายที่สุด แต่รุ่นนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีประตูสไลด์ไฟฟ้า และออปชันน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างไรก็ตามก็ยังเป็นรุ่นนิยมที่มีการซื้อขายอยู่ในปัจจุบัน

เปรียบเทียบ Honda Freed รุ่นนิยม (EL, SE, E)
คุณสมบัติ | Honda Freed 1.5 EL | Honda Freed 1.5 SE | Honda Freed 1.5 E |
---|---|---|---|
ดีไซน์เด่น | เรียบหรู ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียม | เรียบง่าย แต่พรีเมียมขึ้น | เรียบง่าย |
กลุ่มเป้าหมาย | คนที่ต้องการฟังก์ชันครบ มีความหรูหรา | คนที่ต้องการรถคุ้มค่า มีออปชันพื้นฐานครบ | คนที่ต้องการรถ MPV คันแรกในราคาเข้าถึงง่าย |
ราคามือสองปัจจุบัน | ประมาณ 320,000 - 420,000 บาท | ประมาณ 280,000 - 400,000 บาท | ประมาณ 250,000 - 350,000 บาท |
ข้อควรพิจารณา | ราคาสูง และค่าบำรุงรักษาสูง | บางรุ่นยังไม่มีระบบปรับอากาศด้านหลัง | ออปชันน้อยกว่ารุ่นอื่น, ไม่มีระบบปรับอากาศด้านหลัง |
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถ Honda Freed
ต่อกันที่คำถามยอดฮิตเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮอนด้า ฟรีด ที่เป็นอีกหนึ่งชุดข้อมูลสำคัญสำหรับคนที่สนใจอยากซื้อ Honda Freed สักคัน เช็คข้อมูลกันเลย
Honda Freed อัตราสิ้นเปลืองเท่าไหร่
Honda Freed มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 10 - 15 กิโลเมตรต่อลิตร
Honda Freed มีแอร์หลังไหม
Honda Freed รุ่นแรกๆ ยังไม่มีแอร์หลัง แต่รุ่นไมเนอร์เชนจ์ตั้งแต่ปี 2013 มา รุ่นท็อปอย่าง 1.5 EL มีแอร์หลังให้ ส่วนรุ่นอื่นๆ ที่ขายในไทยจะไม่มีแอร์หลัง ต้องเป็นรถนำเข้าจากญี่ปุ่นเท่านั้น ถึงจะมีแอร์หลังให้
Honda Freed มีกี่ที่นั่ง
Honda Freed มีที่นั่งค่อนข้างยืดหยุ่น ส่วนใหญ่เป็นแบบ 7 ที่นั่ง ที่มีขายในไทย แต่ถ้าเป็นรถนำเข้าจากญี่ปุ่น จะมีแบบ 6 ที่นั่งด้วย นอกจากนี้ยังมีรุ่น Freed+ ที่เป็นแบบ 5 ที่นั่ง ต้องนำเข้าด้วยเช่นกัน
Honda Freed ในตลาดรถมือสองส่วนใหญ่รุ่นอะไร
Honda Freed รุ่นนิยมในตลาดรถมือสอง จะมีรุ่น 1.5 E, 1.5 SE และ 1.5 EL ทั้งสามรุ่นนี้เป็น Honda Freed เจเนอเรชันแรกทั้งหมด และเป็นรุ่นที่มีขายในไทย
