
ความนิยมซื้อขายรถ Toyota Celica ในประเทศไทย
Toyota Celica (โตโยต้า เซลิก้า) รถสปอร์ตจากค่าย Toyota ที่ได้รับความนิยมมากทั้งในไทยและต่างประเทศ เรียกว่านี่คือรถในตำนานที่เคยฝากชื่อเสียงไว้ในการแข่งขัน WRC (World Rally Championship) รายการแข่งรถแรลลี่ระดับนานาชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหด ซึ่งแน่นอนว่า Toyota Celica รถสัญชาติญี่ปุ่นรุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จ และเคยคว้าแชมป์มากถึง 4 สมัยด้วยกัน พูดแค่นี้ก็รู้แล้วว่ารถโตโยต้า เซลิก้าไม่ใช่รถสปอร์ตธรรมดาอย่างแน่นอน
ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของรถ Toyota Celica เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1970s เป็นรถคูเป้ 2 ประตูที่พัฒนาเพื่อให้เป็นรถสปอร์ตดีไซน์สวย ขับสนุก และมีราคาย่อมเยา ซึ่งแน่นอนว่าทันทีที่เปิดตัวก็ได้รับความนิยมมาก เรียกว่าเป็นรถขวัญใจสายซิ่งของคนยุค 80s-90s ก็ว่าได้ โดยในไทยหลังจากที่โตโยต้า เซลิก้าได้เปิดตัวไปไม่นานทางโตโยต้าก็ได้เริ่มเข้ามาทำการตลาด และวางขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่เจเนอเรชันที่ 1 แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีการวางขายในทุกเจเนอเรชัน บางรุ่นก็ต้องอาศัยการนำเข้าเพียงเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม Toyota Celica ก็ยังเป็นรถสปอร์ตในดวงใจของใครหลายๆ คน
จากการรับรู้ของแฟนๆ รถสปอร์ตว่า Toyota Celica นั้นได้เลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 2006 แต่ปัจจุบันอัปเดตล่าสุด 2025 ก็มีข่าวดีให้แฟนๆ ได้เฮกันเพราะ Toyota Celica จะกลับลงสู่สนามให้เหล่าคนรักรถได้จับจองกันอีกครั้ง ถึงแม้ว่าตอนนี้รายละเอียดยังไม่ออกมาแน่ชัด แต่เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมซื้อรถเซลิก้าตัวใหม่ และเป็นการย้อนรอยตำนานรถแรลลี่ เราจะพาไปทำความรู้จักรถ Toyota Celica ทุกเจเนอเรชันกันว่ามีรายละเอียดสเปค จุดเด่นอะไรบ้าง พร้อมทั้งซื้อรถ Toyota Celica ได้ที่ ENNXO ตลาดรถออนไลน์
Toyota Celica ราคาเปิดตัวและราคามือสองปัจจุบัน
ราคา/รุ่นปี | 1970 - 1977 | 1977 - 1981 | 1981 - 1985 | 1985 - 1989 | 1989 - 1993 | 1993 - 1999 | 1999 - 2006 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ราคาเปิดตัว | ประมาณ 200,000 - 350,000 บาท | ไม่พบข้อมูล | ไม่พบข้อมูล | ไม่พบข้อมูล | ไม่พบข้อมูล | ประมาณ 325,000 - 400,000 บาท | ประมาณ 600,000 - 700,000 บาท |
มือสอง | ประมาณ 800,000 - 1.1 ล้านบาท | ประมาณ 300,000 - 1 ล้านบาท | ประมาณ 250,000 - 350,000 บาท | ประมาณ 300,000 - 1 ล้านบาท | ประมาณ 300,000 - 500,000 บาท | ประมาณ 600,000 - 800,000 บาท | ประมาณ 300,000 - 700,000 บาท |
จากตารางแสดงราคาเปิดตัวและราคามือสองของรถ Toyota Celica จะเห็นได้ว่ารถในแต่ละช่วงปีค่อนข้างมีเรทราคาที่กว้างและหลากหลาย เนื่องจากรถรุ่นนี้ไม่มีการผลิตแล้วจำเป็นต้องซื้อมือสองเพียงเท่านั้น และแน่นอนว่าราคารถมือสองก็มีปัจจัยที่ทำให้มีราคาต่างกันมีตั้งแต่ปีที่ผลิต สถาพรถ ประวัติการใช้งาน ความหายาก และความนิยมของรถรุ่นนั้นๆ อีกด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุให้รถโตโยต้า เซลิก้า มือสองมีราคาค่อนข้างหลากหลายนั่นเอง
รวมรถ Toyota Celica ทุกรุ่น

Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 1 ปี 1970 - 1977
Toyota Celica รถเจเนอเรชันแรก รหัสตัวถัง A20 และ A35 เปิดตัวครั้งแรกในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ปี 1970 มาพร้อมจุดเด่นด้านดีไซน์แบบ “Coke Bottle Styling” คือบริเวณช่วงกลางลำจะมีความเว้าลงนั่นเอง ซึ่งในช่วงแรกของรถ Toyota Celica ได้ผลิตออกมาเป็นรถคูเป้ 2 ประตู ก่อนที่ในปี 1973 ทางโตโยต้าได้ผลิตตัวถังแบบ Liftback 3 ประตู และหากถามถึงแรงบันดาลใจการผลิตรถเซลิก้ารุ่นแรกนั้นก็มาจากกระแสรถ “Ford Mustang Fastback” ที่ได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และตัวแพลตฟอร์มของเซลิก้าก็ใช้ร่วมกับ Toyota Carina นอกจากนี้จุดเด่นอื่นๆ ของรถ Toyota Celica รุ่นแรกคือ ขนาดเล็กกะทัดรัด และยังดูสปอร์ตอีกด้วย สำหรับรถ Toyota Celica นั้นเรียกว่าได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีและปิดจบเจเนอเรชันไปด้วยยอดผลิต 1 ล้านคัน
- เครื่องยนต์: เริ่มต้น 1,588 ซีซี SOHC คาร์บูเรเตอร์
- แรงม้า: เริ่มต้น 102 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
- แรงบิด: ประมาณ 132 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: ธรรมดา 4 สปีด / 5 สปีด (บางรุ่น) และอัตโนมัติ (เฉพาะบางตลาด)
- เชื้อเพลิง: เบนซิน
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 10-12 กิโลเมตร/ลิตร
- ตัวถัง: Coupe, Liftback

Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 2 ปี 1977 - 1981
รถโตโยต้า เซลิก้า เจเนอเรชัน 2 รหัสตัวถัง A40 รถเจนใหม่มาพร้อมดีไซน์ที่ต่างจากเดิมทั้งตัวถังที่ขนาดใหญ่ขึ้น หลังคาเตี้ยลง ไฟหน้าเหลี่ยม 4 ดวง ได้มีการพัฒนาระบบความปลอดภัย และประหยัดน้ำมันมากกว่าเจนแรก นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นความนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่ารถ Toyota Celica รุ่น 2 นี้ได้รับความนิยมมากจนได้รางวัล “รถยนต์นำเข้าประจำปี 1978” ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ความพิเศษของรถ Toyota Celica รุ่น 2 คือเป็นรถต้นแบบของการผลิตรถ “Toyota Supra” และรถบ้าน 4 ประตูอย่างรถ “Toyota Celica Camry” ซึ่งในภายหลังได้แยกโมเดลการผลิตรถเป็น Toyota Camry อย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน
- เครื่องยนต์: เริ่มต้น 1,588 ซีซี SOHC คาร์บูเรเตอร์
- แรงม้า: เริ่มต้น 75 แรงม้า ที่ 5,400-6,000 รอบ/นาที
- แรงบิด: ประมาณ 120-140 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: ธรรมดา 4 สปีด / 5 สปีด และอัตโนมัติ 3 สปีด
- เชื้อเพลิง: เบนซิน
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 9-12 กิโลเมตร/ลิตร
- ตัวถัง: Coupe, Liftback, และ Convertible

Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 3 ปี 1981 - 1985
รถเซลิก้าเจเนอเรชันที่ 3 รหัสตัวถัง A60 ตัวใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยตามสไตล์รถยุค 80s ตัวถังภายนอกมีความเหลี่ยม ดุดัน ไฟหน้าเป็นกระจกใสเมื่อเปิดไฟหน้าจะตั้งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเครื่องยนต์เป็น 4 ขนาด ตั้งแต่ 1,600 / 1,800 / 2,000 / 2,400 ซีซี สำหรับรุ่นท็อปของเซลิก้า เจเนอเรชัน 3 คือรุ่น Celica GT-T, GTS ที่ผลิตมาเพียง 200 คัน เพื่อการแข่งขัน World Rally Championship (Group B Rally) โดยเฉพาะอีกด้วย
- เครื่องยนต์: เริ่มต้น 1,600 ซีซี
- แรงม้า: เริ่มต้น 90 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที
- แรงบิด: ประมาณ 160-180 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ (เฉพาะบางตลาด)
- เชื้อเพลิง: เบนซิน
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 9-12 กิโลเมตร/ลิตร
- ตัวถัง: Coupe, Liftback, Convertible, Celica Supra

Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 4 ปี 1985 - 1989
Toyota Celica เจเนอเรชัน 4 รหัสตัวถัง T160 อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของรถเซลิก้าเพราะเป็นรุ่นแรกที่มีการเปลี่ยนมาขับล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่น GT-Four ทำให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และประหยัดน้ำมันมากขึ้น ไฟหน้ายังคงเป็นแบบ Pop-Up ตามสไตล์รุ่นก่อนหน้า แต่ตัวถังจะมีความโค้งมนมากขึ้นกว่าเดิม ในไทยจะเรียกรถเจน 4 กันว่า “เซลิก้าไฟป๊อบตูดกระจก”
สำหรับรุ่นที่ได้กลายเป็นตำนานของรถเซลิก้า เจเนอเรชันที่ 4 ต้องยกให้ “GT-Four (ST165)” ที่ได้ลงในการแข่งขัน World Rally Championship และคว้ารางวัลชัยชนะในการแข่งขัน Rally Australia ปี 1989 อีกด้วย
- เครื่องยนต์: เริ่มต้น 1,588 ซีซี
- แรงม้า: เริ่ม 95 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
- แรงบิด: ประมาณ 140-170 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด (บางรุ่น)
- เชื้อเพลิง: เบนซิน
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 9-13 กิโลเมตร/ลิตร
- ตัวถัง: Coupe, Liftback, Convertible, GT-Four

Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 5 ปี 1989 - 1993
Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 5 รหัสตัวถัง T180 ที่มาพร้อมโฉมใหม่ โดยในรุ่นนี้จะลบดีไซน์ที่เป็นทรงเหลี่ยมออกทั้งหมด รถมีความโค้งมนมากขึ้น หลังคาลาดต่ำลง กระจกมองข้างทรงลู่ลมแต่ยังคงไฟหน้า Pop-Up สุดเอกลักษณ์เอาไว้อยู่ ซึ่งการดีไซน์ของรถรุ่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Toyota Supra และ Toyota MR2 โดยในไทยเรียกรถเจนนี้ว่ารุ่นปลาคาร์ฟ สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมและถือว่ามีราคาสูงมากของรถเจเนอเรชันที่ 5 ต้องยกให้รุ่น “GT-Four” เป็นรถสำหรับใช้แข่ง Rally และสามารถนำมาใช้ขับบนถนนได้จริงอีกด้วย
- เครื่องยนต์: เริ่มต้น 1,587 ซีซี
- แรงม้า: เริ่มต้น 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
- แรงบิด: ประมาณ 140 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด
- เชื้อเพลิง: เบนซิน
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 9-13 กิโลเมตร/ลิตร
- ตัวถัง: Coupe, Liftback, Convertible, GT-Four

Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 6 ปี 1993 - 1999
Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 6 รหัสตัวถัง T200 เป็นรุ่นที่ทางโตโยต้าสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบ 25 ปี ของการผลิตรถ Celica แน่นอนว่าดีไซน์มีความผสมผสานความคลาสสิกของรถรุ่นแรกๆ กับความทันสมัยได้เข้ากันอย่างลงตัว โดยรถเซลิก้ารุ่นที่ 6 เป็นรุ่นแรกที่ไม่มีไฟป็อปอัพด้านหน้าลักษณะจะเป็นไฟทรงกลมเหมือนกับรุ่นแรกๆ และมีน้ำหนักเบาลงถึง 90 กิโลกรัม แถมยังมีระบบเบรก ABS ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีขึ้นอีก ซึ่งต้องบอกว่า Toyota Celica เจเนอเรชันนี้ได้รับความนิยมในไทยมาก และเป็นรุ่นที่ยังมีคนตามหามือสองกันในปัจจุบันเยอะมาก
- เครื่องยนต์: เริ่มต้น 1,762 ซีซี
- แรงม้า: เริ่มต้น 115 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที
- แรงบิด: ประมาณ 156 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด
- เชื้อเพลิง: เบนซิน
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 8-13 กิโลเมตร/ลิตร
- ตัวถัง: Coupe, Liftback, Convertible, GT-Four

Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 7 ปี 1999 - 2006
Toyota Celica เจเนอเรชันที่ 7 รหัสตัวถัง T230 รถในตำนานรุ่นสุดท้ายที่ได้วางขายโดยได้ปรับโฉมใหม่ที่เน้นความสปอร์ต ทันสมัย และมีความโฉบเฉี่ยวเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับไฟหน้าเป็นทรงยาว ฝากระโปรงหน้ามีช่องรับอากาศ สปอยเลอร์หลังทรง GT แถมยังยกเลิกการผลิตรุ่นขับขี่สี่ล้อมาเป็นระบบการขับเคลื่อนล้อหน้าเพียงอย่างเดียวอีกด้วย โดยรถ Toyota Celica รุ่นสุดท้ายได้สิ้นสุดการผลิตลงในวันที่ 21 เมษายน 2006 เนื่องจากกระแสความนิยมรถสปอร์ตลดลง และยอดขายที่ตกลงอย่างต่อเนื่องทำให้ในที่สุดก็ได้ปิดตำนานรถสปอร์ต แรลลี่ของโตโยต้าลง
- เครื่องยนต์: เริ่มต้น 1,794 ซีซี
- แรงม้า: เริ่มต้น 140 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที
- แรงบิด: ประมาณ 171 นิวตันเมตร
- ระบบเกียร์: ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด
- เชื้อเพลิง: เบนซิน
- อัตราประหยัดน้ำมัน: ประมาณ 12-14 กิโลเมตร/ลิตร
- ตัวถัง: Liftback
เปรียบเทียบสเปคแต่ละรุ่นของ Toyota Celica
คุณสมบัติ | 1970 - 1977 | 1977 - 1981 | 1981 - 1985 | 1985 - 1989 | 1989 - 1993 | 1993 - 1999 | 1999 - 2006 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
เครื่องยนต์ | เริ่มต้น 1,588 ซีซี | เริ่มต้น 1,588 ซีซี | เริ่มต้น 1,600 ซีซี | เริ่มต้น 1,588 ซีซี | เริ่มต้น 1,587 ซีซี | เริ่มต้น 1,762 ซีซี | เริ่มต้น 1,794 ซีซี |
อัตราประหยัดน้ำมัน | 10-12 กม./ลิตร | 9-12 กม./ลิตร | 9-12 กม./ลิตร | 9-13 กม./ลิตร | 9-13 กม./ลิตร | 8-13 กม./ลิตร | 12-14 กม./ลิตร |
แรงม้า | เริ่มต้น 102 แรงม้า | เริ่มต้น 75 แรงม้า | เริ่มต้น 90 แรงม้า | เริ่ม 95 แรงม้า | เริ่มต้น 105 แรงม้า | เริ่มต้น 115 แรงม้า | เริ่มต้น 140 แรงม้า |
แรงบิด | 132 นิวตันเมตร | 120-140 นิวตันเมตร | 160-180 นิวตันเมตร | 140-170 นิวตันเมตร | 140 นิวตันเมตร | 156 นิวตันเมตร | 171 นิวตันเมตร |
รุ่นย่อยของ Toyota Celica
เนื่องจาก Toyota Celica ได้ยกเลิกการผลิตไปตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งต่อให้มีข่าวออกว่ารถ Toyota Celica 2025 จะฟื้นหวนกลับมาเปิดตัวใหม่อีกครั้ง แต่เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ เอ็นโซ่จึงอยากแนะนำรุ่นย่อยของรถ Toyota Celica ตัวล่าสุดที่วางขายในไทย มาดูกันว่าจุดเด่นของทั้ง 2 รุ่นมีอะไรบ้าง
ข้อดี-ข้อเสียของรถ Toyota Celica มือสอง
มาดูกันว่าหากคุณตัดสินใจซื้อรถ Toyota Celica มือสอง จะเจอกับข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง เพื่อให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นเอ็นโซ่ได้รวบรวมไว้ให้แล้ว
- ขับสนุก สปอร์ต
- ดีไซน์เท่ เป็นเอกลักษณ์
- เครื่องยนต์ทนทาน
- ประหยัดน้ำมัน
- โครงสร้างปลอดภัย
- พื้นที่ภายในห้องโดยสารจำกัด
- ระบบเทคโนโลยีไม่ทันสมัย
- อะไหล่ภายนอกหายาก
- ระบบช่วงล่างเสื่อมตามอายุ
Toyota Celica มือสอง น่าใช้ไหม เหมาะกับใคร?
สำหรับรถ Toyota Celica ที่ได้เลิกผลิตไปแล้วนั้นทำให้ปัจจุบันไม่มีรุ่นใหม่ๆ จำหน่ายอีกต่อไป การมองหารถรุ่นนี้จึงจำเป็นต้องซื้อมือสองเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าการซื้อรถ Toyota Celica มือสองเป็นรถในตำนานที่ใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก โดยเฉพาะสายรถสปอร์ตหากได้ลองขับจะพบว่าสมรรถนะรถเซลิก้าทั้งแรงและเร็ว แถมยังไว้ใจเรื่องความทนทานได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะมีปัญหาจุกจิกตามมาให้ต้องแก้ไขอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำมันซึม, ช่วงล่างฝืด หรือโช้คหมดอายุการใช้งานเป็นต้น
โดยรถ Toyota Celica นั้นจะเหมาะกับคนที่ใจรักในรถสปอร์ตคลาสสิก สไตล์ญี่ปุ่น และคนที่เป็นสายแต่งรถ ชอบรถ Toyota Celica แต่งสวย และต้องมีความเข้าใจว่าเป็นรถมือสองที่มีอายุค่อนข้างนาน ต้องยอมรับสภาพการใช้งานและอาจต้องดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษ หากคุณกำลังมองหารถสำหรับขับขี่ในชีวิตประจำวัน Toyota Celica อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร แต่หากคุณคือคนที่มีความหลงใหลในรถสปอร์ต ญี่ปุ่น แถมยังเต็มไปด้วยตำนานมากมายเราขอแนะนำ Toyota Celica
แนะนำรถ Toyota Celica รุ่นยอดนิยม
จากที่เห็นประวัติอันยาวนานของรถ Toyota Celica กันไปแล้ว เราจะพาเหล่านักซิ่งทุกคนไปดูกันว่าในบรรดารถสปอร์ตแรลลี่ของเซลิก้าทั้งหมด จะมีรุ่นไหนที่ได้รับความนิยม และยังมีจำนวนคนมองหารถมือสองกันเป็นจำนวนมาก เช็คพร้อมกันได้เลย
- Celica ST162 / ST163 (เจเนอเรชันที่ 4) เป็นรุ่นที่ย้ายมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) เป็นครั้งแรก สมรรถนะสูงสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลาเพียง 8.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับตัวดีไซน์มีความลู่ลม ไฟหน้า Pop-up ตามสไตล์รถเซลิก้า
- Celica ST183 (เจเนอเรชันที่ 5) เป็นรุ่นที่มาพร้อมจุดเด่นในด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและดีไซน์โดดเด่น โดยเป็นรุ่นแรกที่ใช้ระบบพวงมาลัยสี่ล้อ ช่วยให้การขับขี่คล่องตัวมากขึ้น และยังคงไฟหน้าแบบ Pop-up เอาไว้ ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- Celica GT-Four ST205 (เจเนอเรชันที่ 6) เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาเพื่อการแข่งขัน World Rally Championship โดยเฉพาะ ทำให้มีเทคโนโลยีและสมรรถนะสูงดีไซน์โดดเด่นมีความสปอร์ต ทันสมัย แถมเครื่องยนต์ทนทานและปรับแต่งง่ายเหมาะกับสายชอบแต่งรถเป็นพิเศษ

เปรียบเทียบ Toyota Celica รุ่นยอดนิยม
คุณสมบัติ | Celica ST162 / ST163 | Celica ST183 | Celica GT-Four ST205 |
---|---|---|---|
เจเนอเรชัน | 4 | 5 | 6 |
ปีผลิต | 1985 - 1989 | 1989 - 1993 | 1994 - 1999 |
ดีไซน์เด่น | ดีไซน์สปอร์ตสไตล์ยุโรป พร้อมไฟหน้า Pop-up | ดีไซน์สปอร์ต ทันสมัยขึ้นแต่ยังคงไฟหน้า Pop-up | สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่และช่องระบายอากาศที่ฝากระโปรงหน้า |
กลุ่มเป้าหมาย | รถสปอร์ตที่มีสมรรถนะดี | รถสปอร์ตที่มีสมรรถนะดี | คนที่มองหารถสปอร์ต สไตล์รถแข่งขัน Rally |
ราคามือสอง ล่าสุด | ประมาณ 200,000-450,000 บาท | ประมาณ 300,000-500,000 บาท | ประมาณ 800,000-1.2 ล้านบาท |
ข้อควรพิจารณา | อะไหล่หายาก, ระบบกันสะเทือนเสื่อมสภาพเร็ว | ระบบกันสะเทือนเสื่อมสภาพเร็ว | ระบบกันสะเทือนเสื่อมสภาพเร็ว, ราคามือสองค่อนข้างสูง |
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถ Toyota Celica
มาทิ้งท้ายไปกับคำถาม Q&A ที่ทางเอ็นโซ่พบเจอกันอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับรถ Toyota Celica กันว่าเพื่อนๆ มีคำถามอะไรที่สงสัยเกี่ยวกับรถเซลิก้าบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลย
Toyota Celica มือสอง ราคาเท่าไหร่?
รถโตโยต้า เซลิก้ามือสองมีตั้งแต่ราคาหลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ปีที่ผลิต และความนิยมของช่วงนั้นๆ ด้วย
Toyota Celica กี่ cc?
เครื่องยนต์ของรถ Toyota Celica มีตั้งแต่ 1,800 - 2,000 ซีซี
Toyota Celica ใช้เครื่องอะไร?
Toyota Celica มีการใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยนั้นๆ โดยมีทั้งเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง SOHC หรือ DOHC, เครื่องยนต์ 3S-GE และเครื่องยนต์ 3S-GTE เป็นต้น
รถยนต์โตโยต้า เซลิก้า ขับเคลื่อนล้อไหน?
รถยนต์โตโยต้า เซลิก้าแต่ละรุ่นย่อยจะมีระบบขับเคลื่อนต่างกันออกไป มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (จะพบในรุ่นทั่วไป) และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (พบในรถแข่ง WRC)
